Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

และแล้ว..คริสตี้ก็มิใช่ศพเดียว
คดีอัปยศซ้ำซากในสายตาสื่ออังกฤษ

เป็นเพราะสื่ออังกฤษ เคยมีประสพการณ์และความทรงจำอันเลวร้าย กับการที่คนของประเทศเขา ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสะเทือนขวัญและยังคงไร้ร่องรอยที่เมืองไทย จึงไม่แปลกที่การตายของอาดัม เจฟฟรีย์ ลอยด์ กับวาเนสซ่า แคลร์ อาร์สคอตต์ จะถูกประโคมให้ภาพของประเทศไทยน่าสะพึงกลัวสำหรับนักท่องเที่ยวจากอังกฤษอีกครั้ง

คงจะไม่เกินเลยที่จะใช้คำว่าน่าสะพึงกลัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาแทนที่จะมาจากอาชญากรทั่วไป แต่กลับเป็นน้ำมือของคนในเครื่องแบบ

กลางดึกวันที่ 9 กันยายน ด.ต.สมชาย วิเศษสิงห์ อายุ 38 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี ฆาตกรรมนายอาดัม เจฟฟรีย์ ลอยด์ อายุ 23 ปี ชาวเมืองน็อตแฮมตั้น ประเทศอังกฤษ และ น.ส.วาเนสซ่า แคลร์ อาร์สคอตต์
นักศึกษาอายุ 22 ปี ชาวเมืองซิติเว่น ประเทศอังกฤษ ภายในร้านอาหาร S&S ริมถนนสายแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี

รายงานข่าวแจ้งว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 เข้ามาดื่มกินในร้านอาหารที่เกิดเหตุซึ่งด.ต.สมชายเป็นเจ้าของ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า สองหนุ่มสาวทะเลาะกัน และฝ่ายชายเริ่มมีปากเสียงกับ ด.ต.สมชายจนถึงขั้นชกต่อย ที่สุด ด.ต.สมชายได้ชักปืนพกขนาด .38 จ่อยิงใส่นายอาดัม ขณะที่น.ส.วาเนสซ่าพยายามวิ่งหนี

พยานระบุว่า ด.ต.สมชายขับรถพุ่งเข้าชนเธอและลากร่างติดรถไปก่อนจะจ่อยิงซ้ำและขับรถหลบหนีหายเข้ากลีบเมฆไป ส่วน 2 เหยื่ออารมณ์ บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบ้าน ของด.ต.สมชาย พบเพียงรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 460 สีฟ้า ทะเบียน กค 515 กาญจนบุรี ที่เต็มไปด้วยคราบเลือดจำนวนมากตามส่วนต่างๆ ของรถ จึงยึดรถไว้เป็นหลักฐาน และคาดว่าสาเหตุสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการมึนเมา ทะเลาะวิวาทและหึงหวง เพราะมีพยานบอกว่าด.ต.สมชาย สนิทสนมกับ น.ส.วาเนสซ่าด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานทูตอังกฤษต้องส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิ้น และสื่ออังกฤษก็บินมาเกาะติดสถานการณ์ โดยไม่ลืมที่จะพลิกฟื้นคดีเก่าที่ยังค้างคาหาข้อสรุปไม่ได้มากเสนออีกครั้ง นั่นคือคดีที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่

การตายของคริสตี้ ซาร่า โจนส์ เมื่อสิงหาคม 2543 สะเทือนขวัญไม่ยิ่งหย่อน ครั้งนั้นเธอถูกข่มขืนและฆ่าที่เกสท์เฮ้าส์กลางเมืองเชียงใหม่

คดีคริสตี้ซับซ้อนและฉาวโฉ่ เพราะไม่เพียงแค่ความโหดเหี้ยมของเหตุการณ์แล้ว ยังมีเรื่องของการจับแพะ ตำรวจเข้ามาพัวพัน ไปจนถึงทรัพย์สินของคริสตี้หายสาบสูญไปด้วยอีกต่างหาก

หลังพบศพคริสตี้ ผู้ต้องสงสัยซึ่งมีทั้งฝรั่งในเกสท์เฮ้าส์ ไกด์ชาวกะเหรี่ยง และผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมากถูกสอบปากคำไป

บ้างก็ว่า เป็นแอนดริว เจมส์กิลล์ ชาวอังกฤษ เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ ที่มีพฤติกรรมทางเพศประหลาด บ้างก็ว่าเป็น
กระเหรี่ยงที่นำทางคริสตี้ไปทัวร์ป่า แต่ตอนหลังเรื่องกลับกลายเป็นว่าถูกขู่ให้เป็นแพะ

บ้างก็ว่าเป็นตำรวจท่องเที่ยวที่ลับๆ ล่อๆ อยู่ในที่เกิดเหตุ ที่สุดตำรวจจับกุมแอนดริว เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ แต่กลับกลายเป็นอัยการสั่งไม่ฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ก่อนเนรเทศนายแอนดริว ออกจากเมืองไทย

แต่ละปีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากอังกฤษจะเร่งรัดติดตามคดีคริสตี้มายังสำนักงานตำรวจภาค 5 อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ทันที่คดีของคริสตี้จะคลี่คลาย กลับกลายมาเป็นคดีของอาดัม และวาเนสซ่า ซ้ำขึ้นมาสร้างความอัปยศอีก !!

โครงการความร่วมมือด้านข่าวภูมิภาค พลเมืองเหนือ-ประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net