ศูนย์ข่าวภาคใต้-9 ต.ค.47 นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.) เปิดเผย "ประชาไท" ว่า หากอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ยังคงผลักดันพระราชบัญญัติฯมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ เพื่อนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โดยไม่ดำเนินการตามพระราชกระแสของพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานแก่นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2543 เรื่องการให้มหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการทุกแห่ง ปรับฐานะให้เป็นหน่วยงานของรัฐที่มิใช่ส่วนราชการฯ ก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติฯ แนวร่วมประชาคม มอ. จะแจ้งความข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากพระราชกระแสดังกล่าวทรงประทานให้กับทุกมหาวิทยาลัยนำไปปฎิบัติ

สำหรับพระราชกระแสดังกล่าว ระบุว่า ก่อนการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯลฯ ควรมีการปรึกษาหารือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน (คณาจารย์ นักศึกษา ผู้บริหาร ฯลฯ) และร่างประกาศ และระเบียบประกอบทั้งหมดให้ครบก่อน การปรึกษาให้เป็นไปในทำนองประชาพิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปด้วย

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การออกนอกระบบ จะทำให้ต่างชาติเข้ามาตั้งมหาวิทยาแข่งกับมหาวิทยาลัยของรัฐมากขึ้น ยิ่งถ้ามีการเก็บค่าเล่าเรียนแพงขึ้น ก็จะทำให้ไม่ใครแย่งกันเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย คนจนที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยก็ต้องจ่ายแพงเช่นเดียวกับคนรวย ถึงแม้จะมีเงินกู้ให้ แต่ถามว่าถูกต้องตามหลักการหรือไม่ เพราะการศึกษาต้องเป็นสวัสดิการของรัฐที่ต้องจัดให้ประชาชน และจะหาเงินจากที่ไหนมาให้นักศึกษากู้

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า คนเหล่านี้ เมื่อจบการศึกษาแล้ว ต้องทำงานเพื่อจ่ายเงินกู้ ส่วนคนรวยที่ใช้เงินของพ่อแม่จ่ายค่าเล่าเรียนแพง ก็จะออกมาทำงานเพื่อถอนทุนคืน ซึ่งจะทำให้จิตวิญญาณการทำงานเพื่อประชาชนถูกทำลาย ความผูกพันระหว่างวิชาชีพกับความรับผิดชอบต่อประชาชน ที่เกิดจากจิตสำนึกว่า ใช้เงินภาษีของประชาชนในการศึกษาเล่าเรียนมา ก็จะหมดไปด้วย โดยเฉพาะวิชาชีพที่ทำงานเพื่อให้บริการประชาชน เช่น แพทย์ศาสตร์ ถ้าทิศทางการศึกษาไปในแนวนี้ บัณฑิตที่จบออกมาก็จะมุ่งทำงานเพื่อธุรกิจของตัวเองเท่านั้น

"ผมจะยกตัวอย่างแพทย์ของโรงพยาบาลมอ. ถ้ามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ บุคลากรของมหาวิทยาลัย จะกลายเป็นลูกจ้างทันที เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของเอกชน ต่างกับความเป็นข้าราชการที่มีศักดิ์ศรีสูงกว่าลูกจ้าง ทำให้ข้าราชการมีจิตวิญญาณในการทำงานเพื่อประชาชนมากกว่า"

มูฮำหมัด ดือราแม
ศูนย์ข่าวภาคใต้รายงาน