ถึง เพื่อนคนไท
กลับจากใต้นั่งพักในบ้านก้นยังไม่ทันเย็น ข่าวคราวความรุนแรงของสถานการณ์ที่นราธิวาสก็ทำให้ใจร้อนรุ่มขึ้นมาอีก
รอยน้ำตาจากเหตุการณ์ ๒๘ เมษายน ที่มัสยิดกรือเซะยังไม่ทันจาง
ความพยายามที่จะบูรณะเพื่อปิดร่องรอยกระสุนและหลุมระเบิดยังไม่ลุล่วง
ความสูญเสียครั้งใหม่เกิดขึ้น ประหนึ่งจะซ้ำรอยความเศร้า
ฉันนั่งเฝ้าจอทีวีเพื่อติดตามข่าวคืบหน้าอย่างจดจ่อ
ใจคอไม่ดีเมื่อเห็นสภาพการณ์ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย
และเมื่อข่าวของทางการออกมาว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
ยิ่งใจหาย
เพราะผลลัพธ์ของการควบคุมสถานการณ์ได้
๖ คนเสียชีวิตไป อีกหลายสิบคนบาดเจ็บ โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ มากไปกว่า..
"เป็นความสูญเสียอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย"
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินจากจอสี่เหลี่ยม
ฉันรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติในการนำเสนอข่าว
การออกมากล่าวย้ำ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม
โดยกล่าวอ้างว่า
"คนส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น"
แต่ภาพที่ปรากฏ ฉันเห็นผู้ใหญ่ผมขาว ผู้หญิง และผู้ใหญ่วัยกลางคนมีปะปนให้เห็นชัดเจน
"คนเหล่านี้มีอาการมึนเมาตาลอย คล้ายเสพสารเสพติด"
แต่ที่เห็น คือ ฝูงชนผู้หมอบราบถูกจับมัดมือร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ไม่คุ้นชินว่าเป็นสิ่งที่จะทำต่อเพื่อนมนุษย์
และสุดท้ายคล้ายหนังม้วนเดิม ที่ทำลายความชอบธรรมของผู้ชุมนุม ด้วยการอ้างว่า..
มีการว่าจ้างให้คนเหล่านี้มาร่วมชุมนุม และคนจำนวนมากไม่ใช่คนตากใบ
"ไม่ใช่คนตากใบ" แล้วไง? คือคำถามที่ตามมา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนตากใบ แต่คือคนไทยมุสลิมที่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เพื่อนร่วมศาสนา เขาก็มีเหตุผลและความชอบธรรมพอที่จะมาร่วมชุมนุม
เหมือนกับที่ฉันเองก็อยากจะเรียกร้องสันติสุขและความเป็นธรรมให้กับเพื่อนพี่น้องใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถ้าใครจะจัดการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ฉันซึ่งไม่ใช่คนตากใบและคนใน๓จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นคนหนึ่งที่ไปร่วมพลังในการชุมนุม
ฉันคิดว่าการปรับภาพให้ชัดไม่บิดไปเบี้ยวมา เหมือนที่เราเห็นอยู่หน้าจอทีวี เป็นสิ่งที่จำเป็น
เพราะจากรุ่งเช้าของวันที่ ๒๖ ต.ค. จำนวนผู้เสียชีวิต ๖ ศพ ที่ออกจากปากของ รอง ผอ. กอ.สสส.จชต. ได้เพิ่มพรวดเป็น ๘๔ ศพในบ่ายแก่ ๆของวันเดียวกัน พร้อมคำอธิบายสาเหตุการตายของ ๗๘ ศพที่ยากจะเข้าใจและไว้ใจว่าอะไรที่จะเชื่อถือได้อีกต่อไป
ฉันตื่นขึ้นมาเช้าวันนี้
อย่างที่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค. เป็นเพียงฝันไป
...ฝันไปว่าเรายังอยู่ในยุคที่ปกครองโดยเผด็จการ ที่การใช้ความรุนแรงกับฝูงชนเป็นความถูกต้องและชอบธรรมในการใช้อำนาจแห่งรัฐ
รวมทั้งการปิดกั้นและบิดเบือนข่าวสารเพื่อฟอกขาวความบริสุทธิ์ให้แก่ปฏิบัติการในการสลายการชุมนุม เป็นเรื่องง่ายดาย
เสมือนว่าประชาชนยังโง่เขลาพร้อมจะเชื่อและคล้อยตามโดยง่าย
ฉันจึงอยากเชื่อว่า เป็นเพียงฝันที่หลงยุคไป
ขอสันติสุขจงมี
จันทรา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)