ประชาไท-3 พ.ย.47 นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภากล่าวในการประชุมชี้แจงว่า "เรื่องกรณีที่ดินสาธารณะโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซียเป็นเรื่องด่วนมากเพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่

"สิ่งที่กรมที่ดินต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบก็คือโฉนดปริศนานั้นบินมาได้ยังไง ทำไมจึงมีการออก น.ส. 3 สวมสิทธิ์เหนือพื้นที่สาธารณะ" นายแก้วสรรกล่าว

นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า ได้ขอความรู้ว่าทางกรมที่ดินว่าจะดำเนินการสอบสวนอย่างไรในเรื่องนี้เพราะเอกสารที่ศาลพิพากษายืนยันถึงสถานะของที่ดินว่าเป็นที่สาธารณะทางกฎหมาย ในเอกสารของกรมที่ดินเองก็ยืนยันสิทธิ์ของพื้นที่ตรงนี้อย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งพิจารณาสรุปได้ว่าพื้นที่บริเวณโคกชายทะเลเป็นที่ดินสงวนจริง

นายแก้วสรรกล่าวอีกว่า ดังนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีการปิดกั้นทางเดินสาธารณะจริงดังที่ชาวบ้านร้องเรียนมาก็ต้องดำเนินคดีทางอาญาทันที เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ส่วนกรณีการถมที่ป่าพรุซึ่งปรากฏหลักฐานตามที่นายสมชาย ฤทธิเดช และทางตัวแทนกลุ่มผู้คัดค้านโครงการได้ชี้แจงมาแล้วนั้น จะต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนพื้นที่ป่าพรุให้กลับสู่สภาพเดิม หรือเหมือนเดิมมากที่สุด

นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ทางกรรมมาธิการได้พิจารณาข้อมูลทั้งจากเอกสารของกรมที่ดินและข้อมูลที่ตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซมาชี้แจงแล้ว ทางกรรมมาธิการสิ่งแวดล้อมจะออกเป็นเอกสารเพื่อเสนอต่อสภาในขั้นตอนต่อไป

ในวันนี้บรรยากาศการชี้แจงต่อกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาเป็นไปอย่างเคร่งเครียดโดย เฉพาะตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน นายอำเภอจะนะ ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตัวแทนชาวบ้านต่างก็ผลัดกันอภิปรายให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการฯในเรื่องสถานะที่ดินโคกชายทะเลอย่างเข้มข้น

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน