จากการประชุมที่กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2547 นางแมรี่ โรบินสัน อดีตประธานาธิบดีของประเทศไอร์แลนด์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริหารองค์กร Realising Rights อนุญาตให้กลุ่มผู้ประท้วงเข้าร่วมงานในครั้งนี้ แล้วยังเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประท้วงสามารถนำเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้ามาพูดในที่ประชุมได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าเป้าหมายในการโจมตีเรื่องนี้จะเป็นสปอนเซอร์หลักในการจัดงานนครั้งนี้ก็ตาม ซึ่งก็คือ ธนาคาร Barclays นั่นเอง

ธนาคาร Barclays เป็นธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการสร้างเขื่อน Narmada River Dam ในประเทศอินเดีย และโครงการท่อกาซไทย-มาเลเซีย ในประเทศไทย ในส่วนโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์นี้ ธนาคาร Barclays ได้ให้เงินกู้เป็นจำนวนถึง 257 ล้านดอลล่าร์ โดยที่ทางกลุ่มนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนได้กล่าวประณามว่าทางธนาคารได้ละเมิดกฎ Equator Principles ที่ได้ลงนามไว้ภายใต้กรอบของ World Bank ในการให้เงินกู้ในโครงการที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับสังคมและสิ่งแวดล้อม

โดยทางธนาคาร Barclays เป็นหนึ่งในผู้ลงนามแรกของข้อตกลงร่วมกัน Equator Principles ร่วมกับ 25 ธนาคารระหว่างประเทศขนาดใหญ่ ที่จะยึดมั่นในกรอบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งทางธนาคารยังคงยืนยันว่าตนไม่ได้ละเมิดในข้อตกลง Equator Principles ในโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์ ซึ่งเป็นเพราะความยุ่งยากซับซ้อนในประเด็นที่เกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อมนั้นจะถูกลบล้างไปภายใต้ข้อตกลงการให้เงินกู้นั่นเอง

นางแมรี่ โรบินสัน กล่าวว่า อีกปัญหาหนึ่งที่เกี่ยวกับข้อตกลงภายใต้กรอบของ World Bank ในการให้กู้เงิน ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้การพิจารณาอยู่ในขณะนี้ ก็คือ พวกเขาไม่ได้นำประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนเข้ามาพิจารณาอย่างเพียงพอ และในเวลาเดียวกันนางแมรี่ โรบินสันกล่าวต่อไปว่า เธอเองก็เชื่อว่ากลุ่มประชาสังคมก็ควรจะให้การตอบแทนเหล่าบริษัทที่เป็นผู้นำในด้านสิทธิมนุษยชนมากกว่านี้ มากว่าจะเป็นการพุ่งเป้าโจมตี และปล่อยให้บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นรอดพ้นจากการพิจารณาจากสังคม

ประชาไทรายงาน