กรุงเทพฯ-18 ธ.ค.47 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับกุมครูสอนศาสนาที่ระบุว่า เป็นแกนนำก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
ทางคลื่น F.M.92.5 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เวลา 08.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2547

ผมอยากจะเล่าให้ฟังถึงเรื่องการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องนี้ผมได้อ่านข่าวกรองมาเป็นเวลา 2 ปี และโดยเฉพาะตั้งแต่ 4 มกราคม 2547 ผมอ่านมากเป็นพิเศษ ผมก็พยายามจำเรื่องราวว่า ตรงนั้นเกิดตรงนี้ ตรงนี้เกิดตรงนั้น และก็พบว่า มันมีความเชื่อมโยงอะไรกันบางอย่าง แต่ว่าการทำข่าวเชื่อมโยงเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ผมจึงได้บอกกับผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติว่า ไปต่อภาพ แล้วเราส่วนราชการต่างๆ เข้ามาเกี่ยว แล้วต่อภาพซิ แล้วไล่ดูซิ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงเกิดต่อเนื่องอย่างนี้

และที่มีพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 นั้น ทรงรับสั่งว่าพฤติกรรมเหล่านี้มันไม่ใช่คนไทยมุสลิมที่ทรงรู้จักมาเป็นเวลา 30 กว่าปี มันเป็นพฤติกรรมที่แปลก และในที่สุดเราก็พบว่า พฤติกรรมที่แปลกนี้เป็นพฤติกรรมที่เรียนมาจากผู้ที่หัวรุนแรงในอินโดนีเซีย หลายคนเป็นนักเรียนที่ไปเรียนศาสนาที่อินโดนีเซีย หลายคนมีเพื่อน หลายคนมีเมียจากอินโดนีเซีย เราก็พยายามต่อภาพนะครับ แล้วก็พบว่าพวกนี้ไปปลุกระดมเด็กวัยรุ่น แล้วเอาไปฝึกที่ไหน ก็ไปฝึกในป่ารัฐกลันตันบางส่วน ฝึกในป่าไทยบางส่วน

แต่ว่าไม่ได้หมายความทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซียสนับสนุน เขาไม่เห็นด้วย เพียงแต่ว่ามันลักลอบ เหมือนกับเราที่เราไม่ได้สนับสนุนเขาก็ลักลอบ ในที่สุดเราก็ค้นพบครับว่า ภาพเหล่านี้ชัดเจนมาก เมื่อเราค้นพบความชัดเจนของภาพเหล่านี้แล้ว เราก็จึงมีการเดินสืบหาพยาน ในที่สุดเราได้พยานเพียงพอ จึงมีการทำสำนวนสอบสวน โดยที่ได้เชิญทางอัยการมาร่วมแต่ต้น เพื่อให้มั่นใจว่าพยาน หลักฐานเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ทั้งพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเห็นว่าพอเพียง

เมื่อดำเนินการสอบสวนไปถึงระยะหนึ่งแล้ว จึงไปขอศาลออกหมายจับ ออกหมายจับชุดแรก 12 คน เราจับมาแล้ว 4 คน 4คนที่จับคนหนึ่งนี่ถูกตั้งไว้ว่าจะให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถ้าหากว่าแยกรัฐปัตตานีได้ ส่วนอีกคนหนึ่งที่หนีไป เป็นครูใหญ่ รร.สอนศาสนาใหญ่มาก คือ รร.ธรรมวิทยา โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนดี มีนักศึกษา 7,000 คน มีครูเยอะ ทั้งครูและนักศึกษาที่ดีเขาอึดอัดมากกับ
การทำให้โรงเรียนของเขาเสียชื่อ แต่เขาก็ไม่กล้า เพราะกลัว เพราะว่าพวกนี้เหี้ยม มีครูที่เลวๆ อยู่ไม่กี่คน แต่ส่วนใหญ่ครูเป็นคนดี และก็มีครูเหล่านี้จะพยายามมองหน่วยก้านเด็กนักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียน แล้วก็เอาเด็กเหล่านี้ไปฝึก ไปล้างสมองเป็นพิเศษ แล้วก็ก่อความวุ่นวายอยู่มาก แล้วนายสะแปอิง ที่หนีไปนี้ คือบุคคลซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ ซึ่งคาดว่าถ้าหากแยกรัฐปัตตานีเสร็จก็จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งคงชาติหน้าสายๆ นะครับ ถ้าผมมีชีวิตอยู่นี่ ผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด เพราะ
ฉะนั้นพวกนี้ไม่มีทาง

เพราะฉะนั้นวันนี้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แน่นอนครับ อานิสงค์จากการที่คนไทยทั้งประเทศได้พับนก และส่งไปโปรยให้เขาในวันมหามงคล วันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้คนส่วนใหญ่ซึ่งมีความน้อยเนื้อต่ำใจมาก่อนในอดีตว่า เขาถูกมองเป็นประชาชนชั้นสองหรือเปล่า คนไทยไม่รับว่าเขาเป็นคนไทยหรือเปล่า หรือว่าส่วนหนึ่งก็เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่บางคนประพฤติเลว ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา คนเหล่านี้คือ คนที่ไม่อยากมีเรื่อง เป็นคนกลางๆ แต่ก็ไม่อยากร่วมมือกับภาครัฐ เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจมี แล้วก็เกิดความกลัวไอ้คนเหล่านี้จะมาฆ่าเขาด้วย

เพราะฉะนั้นความร่วมมือในอดีตไม่ดี พอหลังจากที่มีการโปรยนกไป ทุกคนได้เข้าใจว่า โปรยนกกระดาษนะครับ คือเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติสุข สันติภาพ ทุกคนก็เลยรู้ว่าคนไทยทั้งประเทศนี่ และพับนกได้ถึง 150 กว่าล้านตัว ทั้งๆ ที่เราหวังว่าจะได้สัก 62 ล้านตัว แทนคนไทยทั้ง 62 ล้านคน แต่ปรากฏว่าได้ 150 กว่าล้านตัว พี่น้องชาวไทยมุสลิม 3 จังหวัดภาคใต้ก็มีความรู้สึกว่าอบอุ่นขึ้น มีความรู้สึกว่าคนไทยเข้าใจเขาและมองเขาว่าเป็นคนไทยด้วยกัน แล้วรักเมตตา อยากเห็นสันติสุข

สิ่งเหล่านี้ก็ได้ทำให้ความร่วมมือดีขึ้น เราก็ได้เริ่มได้พยานมากขึ้น พยานก็เริ่มให้การชัดขึ้นๆ ภาพที่เราเห็นก็ต่อได้หมด เมื่อต่อได้หมด เราก็ออกหมายจับ 12 คน และกำลังจะออกหมายจับอีก 29 บวกอีก 31 จำนวน 31 หลังนี่น่าสนใจมาก เป็นบุคคลที่น่าสนใจเยอะ แต่ว่าผมเรียนได้เลยว่าผมนี่กัดไม่ปล่อย เอาละ อะไรที่มากัดก่อนนี่ ประเทศไทยไม่มียอม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมจะเดินต่อ และก็จะจับให้ได้ ถ้าจับไม่ได้ก็อย่าอยู่แผ่นดินไทย หนีก็หนีไปให้สุดเลย อย่าดันทะลึ่งอยู่แถวนี้ อยู่แถวนี้ก็เป็นจับ เพราะไม่เช่นนั้นนี่ เราก็ถือว่าประเทศเราเสียหายจากพวกนี้มามากแล้ว

ผมต้องกลืนเลือด ต้องอดทน เพื่อที่จะไม่ทำอะไร เพราะเนื่องจากว่าพยานหลักฐานไม่ครบ แล้วเรา
ไปจับเราก็จะโดนกล่าวหาจากบุคคลซึ่งพยายามจะสร้างภาพอย่างเดียวนี่ กล่าวหาเลอะเทอะ ไม่รู้เรื่องก็กล่าวหา พูดทั้งวัน ขอให้ได้พูด คนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอึดอัด แต่ต้องระวังเป็นพิเศษ ระหว่างที่กลืนเลือดไป รอพยานหลักฐานไปนั้นนี่ พี่น้องคนบริสุทธิ์ก็ตายไปวันละสองคนสามคนตลอดเวลา บางคนนี่ขี่รถไอติมออกไปเพื่อจะมาหาเลี้ยงลูกที่รออยู่ที่บ้าน ปรากฏว่าลูกไม่ได้เห็นพ่อกลับมา เพราะพ่อถูกยิงตายระหว่างทาง

อันนี้คือความเศร้าสลดที่คนเหล่านี้ โดยบางทีนี่ ไปคิด ไปบิดเบือนคำสอนศาสนา ไม่มีศาสนาใดที่สอนให้คนไปฆ่าคน ฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่มีหรอก ไม่มีเลย ในศาสนาใดในโลกนี้ ไปหาเถอะ

เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้เป็นคนที่ไม่สมควรที่จะได้รับการดูแล เหลียวแล เพราะฉะนั้นวันนี้ก็มี 2 ขั้นตอนครับ ขั้นตอนที่ 1 ก็คือการออกหมายจับและดำเนินการจับกุม ขอให้พี่น้องทั้งหลายกล้ามาเป็นพยานหลักฐาน ผมยืนเคียงข้างท่าน ผมจะปกป้องอย่างเต็มที่ เพื่อจะเล่นงานไอ้คนกลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นเราจะเล่นงานกันต่อไป แต่ส่วนคนดีหรือคนหลงผิด วันนี้ยังสามารถเดินเข้ามาบอกกับเรา เราจะกันเป็นพยาน มาให้การเป็นพยานเสีย ได้ทำผิดไปแล้ว เราจะกันเป็นพยาน เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะดำเนินการเฉพาะไอ้คนที่คิดร้ายต่อประเทศ

คนหลงผิดนั้น เราจะพยายามกันเป็นพยาน เพื่อจะให้จัดการกับไอ้คนที่คิดร้ายต่อประเทศ มักใหญ่ใฝ่สูง ผิดทำนองคลองธรรม ผิดขั้นตอนของสิ่งที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เรียนให้ทุกคนได้ทราบว่า รัฐบาลขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลอินโดนีเซียนะครับ ในการร่วมมือในทุกมิติ เพราะฉะนั้นเราจะกดดันจนถึงที่สุด ก็เรียนให้ทราบว่ารัฐบาลนี้ใช้หลักเมตตาธรรมสุดๆ แต่ก็ผู้ที่ทำผิดเราก็ต้องใช้หลักของกฎหมายสุดๆ เหมือนกันนะครับ

ประชาไทรายงาน