ประชาไท-21 ธ.ค.47 นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมเกี่ยวกับการเลือกตั้งในปีหน้าว่า ทางองค์กรพัฒนาเอกชนร่วมกับพันธมิตรกว่า300 องค์กร จะจัดกิจกรรมรณรงค์เคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนขึ้นทั่วประเทศ ในแคมเปญ "ลดระบอบทักษิณ เพิ่มประชาธิปไตย" รับเลือกตั้งปี 48 โดยพยายามสร้างเงื่อนไขและเวทีให้ประชาชนตระหนักว่าไม่สามารถฝากความหวังไว้กับการเมืองภาคตัวแทนได้อีกต่อไป

"ให้เกิดการตรวจสอบ ทบทวน และเสนอแนะนโยบายสาธารณะไปสู่พรรคการเมือง และให้เกิดการเปรียบเทียบกันความสุ่มเสี่ยงและผลกระทบจากนโยบายของพรรคการเมืองในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งจะวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายพรรคการเมืองที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลว่าจะเป็นอย่างไร โดยจะเป็นวาระร่วมขององค์กรพัฒนาเอกชนไปจนหลังการเลือกตั้ง" ประธาน กป.
อพช. กล่าว

นางสาวรสนา โตสิตระกูล ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่าระบบการเมืองภาคตัวแทนได้มาถึงจุดตีบตัน เพราะอาศัยประชาชนเป็นตรายางเท่านั้นหลังจากเลือกตั้งก็ไม่เคยฟังเสียงประชาชน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเราได้นักธุรกิจมาคุมอำนาจทางการเมือง จะเห็นได้ว่าการได้รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การรวมศูนย์อำนาจ การกำหนดนโยบายที่ไม่ฟังเสียงประชาชน เช่น เขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) การออกพระราชกำหนดที่ไม่จำเป็นในหลายเรื่อง การสร้างหนี้สิน ความรุนแรง ตลอดจนการมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างกว้างขวาง

"ระบอบทักษิณ ไม่ได้หมายถึงนายกทักษิณเพียงคนเดียว คือ ระบอบรวมศูนย์ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง จำเป็นต้องถูกตรวจสอบและควบคุมโดยประชาชน เราต้องการให้พรรคการเมืองต่างๆแถลงนโยบายให้ชัดเจนในประเด็นต่างๆที่เราสนใจ เช่น เอฟทีเอ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ และที่สำคัญคือการเข้าร่วมพรรครัฐบาลเพราะจะเป็นการทำให้เกิดการรวมศูนย์อำนาจแทนที่จะคานอำนาจ" ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าว

ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่าองค์กรภาคประชาชนจะเริ่มแคมเปญโดยเบื้องต้นจะสำรวจนโยบายพรรคการเมืองทุกพรรค ว่ามีจุดยืนอย่างไรบ้าง และจะมีการเช็คลิสต์ให้พรรคการเมืองได้ตอบนโยบายของภาคประชาชนในเวที "สังคมไทยยุคใหม่เป็นไปได้" ในวันที่ 5 ม.ค.ปีหน้า และจะมีการสมัชชาใหญ่จากองค์กรเครือข่ายทั่วประเทศในวาระภาคประชาชนอีกครั้งในวันที่ 15-16 ม.ค. รวมทั้งหลังเลือกตั้งก็จะมีการจัดเวทีอีกครั้งหลังจากทราบว่าใครได้รับเลือกเป็นรัฐบาล

ทั้งนี้ในส่วนของภาคเหนือและภาคอีสานก็จะมีการรณรงค์และจัดเวที เพื่อทบทวนและนำเสนอนโยบายสาธารณะในช่วงเดือนมกราคมในจังหวัดต่างๆ

ปิ่นแก้ว อุ่นแก้ว
ประชาไทรายงาน