Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-21 ธ.ค.47 "ทักษิณ" หลบสื่อฯ ยังไม่แถลงผลสอบข้อเท็จจริงกรณีตากใบ อ้างยังไม่ได้รับรายงานจากคณะกรรมการ ขณะที่โฆษกรัฐบาลแจง เพิ่งได้รับเรื่องวานนี้

"รัฐบาลเพิ่งได้รับผลสรุปจากคณะกรรมการฯ ในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ไม่ใช่ได้รับผลสรุป 3-4 วัน ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไป โดยพล.ท.ปรีชา วรรณรัตน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้รับเรื่อง จะได้นำผลสรุปให้นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาต่อไป" นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรีระบุ

วันนี้ รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลการสอบสวนของคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีนายพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นประธานฯ โดยนายกรัฐมนตรีหลบผู้สื่อข่าวออกทางประตูข้างของตึกสันติไมตรี โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายจักรภพ อธิบายกับสื่อเพียงผู้เดียว

ตามวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ระบุว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีจะเสนอรายงานคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมที่ สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยเสนอเป็นวาระจร

ขณะที่นายพิเชตให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวานนี้(20ธ.ค.) โดยยืนยันว่า ได้ส่งผลสรุปทั้งหมดให้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว และยังรอให้นายกฯ เรียกคณะกรรมการเข้าพบเพื่อมอบเอกสารอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นภายในอาทิตย์นี้

ช่วงเช้าก่อนการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมวันนี้ จะถามหาความคืบหน้าผลการสอบจากคณะกรรมการอิสระฯ ที่ส่งมาแล้วว่าอยู่ที่ใด เนื่องจากต้องการให้ได้ผลสรุป เพื่อนำมาชี้แจงต่อสาธารณะให้เกิดความเข้าใจ

อย่างไรก็ดี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้อ่านผลการสอบสวนทั้งหมด แต่ทราบคร่าวๆ ว่าเป็นการเรียบเรียงเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงใด ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าใครผิด

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังให้รายละเอียดว่า โดยภาพรวมของรายงาน จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำดีที่สุด แต่ว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่างอาจหยาบไปบ้าง โดยเฉพาะ การขนย้าย ผู้ชุมนุม และตอนควบคุมม็อบก็ปฏิบัติไม่สุภาพ ซึ่งต่อไปต้องส่งเจ้าหน้าที่ฝึกควบคุมฝูงชน เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกมาควบคุมฝูงชนโดยเฉพาะมาดูแลสถานการณ์

แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาลกล่าวว่า เป็นไปได้ว่า รัฐบาลไม่แน่ใจว่า แรงเหวี่ยงจากการแถลงผลข้อสรุปการสอบสวนเหตุการณ์หน้า สภ.อ.ตากใบ จะก่อให้เกิดผลในทิศทางใดทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไทยเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซียและอินโดนีเซีย

นอกจากนั้นเหตุการณ์วันที่25 ต.ค.ที่ผ่านมา ถูกยกระดับเป็นประเด็นระดับโลกเช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิรัก และเหตุการณ์สำคัญๆ ในโลก โดยสื่อมวลชนอย่างเช่น นิตยสารไทม์

ดังนั้นไม่ว่าผลการสอบสวนจะออกมาในทิศทางใด ก็จะเป็นที่จับตาของสาธารณชนโลก ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้กระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลในทางลบน้อยที่สุด

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net