ประชาไท-29 ธ.ค.47 เมื่อเวลา 13.00 น. ตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชน(เอ็นจีโอ)ทั่วประเทศกว่า 30 องค์กร อาทิ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.) มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มูลนิธิโลกสีเขียว มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน มูลนิธิแพทย์ชนบท สมัชชาคนจน ได้ร่วมกันประชุมกันเพื่อกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์คลื่นยักษ์ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ และมีมติให้ตั้ง "เครือข่ายความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูชุมชนและธรรมชาติกรณีซึนามิ" ขึ้นเพื่อเป็นองค์กรประสานความช่วยเหลือไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
นาง เรวดี ประเสริฐเจริญสุข ประธาน กป.อพช. กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอ็นจีโอทั่วประเทศต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะชุมชนชาวประมงพื้นบ้านที่หน่วยงานรัฐยังไม่เข้าไปสำรวจความเสียหาย เราจึงตั้งเครือข่ายเพื่อประสานความช่วยเหลือลงไปให้ถึงตัวชาวบ้านให้มากที่สุด ทั้งเครื่องมือประมงที่สูญเสียไป และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ทั้งนี้ไม่ต้องการให้สังคมเข้าใจว่าความเสียหายเกิดขึ้นกับเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวหรือเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการเจ้าของโรงแรม เพียงด้านเดียว
"หลังจากความสูญเสีย เกิดขึ้นภาครัฐเองพยายามช่วยเหลือแต่ในซีกของนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ โรงแรม หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งๆที่ท่ามกลางความเสียหายของนักธุรกิจนั้นยังมีกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับท้องทะเลที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย แต่กลับไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม ซึ่งบางทีมันแก้ปัญหาไม่ได้เพราะชาวบ้านเขาสูญเสียวิถีชีวิตไป ขาดหลักประกันในการมีชีวิตอยู่ เราจึงตั้งเครือข่ายขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาร่วมกับภาครัฐ" ประธานกป.อพช. กล่าว
ด้านน.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนของเครือข่ายฯคือการระดมอาสาสมัครที่เป็นเอ็นจีโอทั่วประเทศ ลงพื้นที่เพื่อไปเก็บข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชุมชนประมงพื้นบ้าน โดยทุกส่วนจะเริ่มลงพื้นที่ในวันที่ 1 ม.ค. นี้ จากนั้นจะเข้าไปช่วยเหลือเฉพาะหน้าด้วยการจัดส่งสิ่งของบริจาคให้ถึงมือชาวบ้านโดยตรง เพราะขณะนี้ความช่วยเหลือของภาครัฐยังไม่ถึงมือชาวบ้านอย่างแท้จริง
โดยทางเครือข่ายฯขอเรียกร้องให้รัฐเปิดโอกาสให้องค์กรภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการฟื้นฟูธรรมชาติแบบระยะยาว ขอให้รัฐบาลใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดผิดพลาดอีก

ประชาไทรายงาน