Skip to main content
sharethis

หลังจากเกิดเหตุการณ์รถไฟใต้ดินชนกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา รถไฟใต้ดินก็ปิดให้บริการมาตลอด จนถึงวันนี้...1 กุมภาพันธ์ ที่ถูกกำหนดให้เป็นวันเปิดให้บริการอีกครั้ง

เราจึงขอนำทุกท่านลงสำรวจบรรยากาศของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในวันแรกหลังอุบัติเหตุ เพื่อสำรวจดูว่ามีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง รวมถึงความรู้สึกของผู้ที่มาใช้บริการด้วย

เราเริ่มตั้งต้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่สถานีสามย่าน ทันทีที่เราลงบันไดเลื่อนเพื่อเข้าสู่ตัวสถานี เราพบว่าจำนวนผู้โดยสารโดยทั่วไปไม่มากนัก แต่ก็ไม่ต่างกับช่วงสายๆ ของวันธรรมดาๆ ก่อนเกิดเหตุรถไฟชนกัน (เราได้คุยกับผู้โดยสารคนหนึ่ง เขาเล่าว่าจำนวนผู้โดยสารในสถานีมีน้อยกว่าเดิมนิดหน่อย ซึ่งผู้โดยสารท่านนั้นตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีบางท่านไม่ทราบว่ารถไฟใต้ดินเปิดบริการแล้ว) แต่ที่สังเกตเห็นได้ชัดก็คือชานชาลาที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยมากขึ้น (และในสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ อันเป็นสถานที่เกิดเหตุที่มีนักข่าวจากแหล่งต่างๆ มาทำข่าวเช่นเดียวกับเรา)

ทีนี้เราลองมาฟังความคิดเห็นของผู้โดยสารที่เราพบกันบ้าง...

เริ่มจากสุภาภรณ์ คำเรืองฤทธิ์-นิสิตปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้โดยสารรถไฟใต้ดินที่เราพบเธอที่สถานีสามย่าน เธอบอกเราว่าธรรมดาไม่ได้ใช้บริการรถไฟใต้ดินสักเท่าไหร่ เพราะว่าค่าโดยสารแพง จะใช้แค่ในช่วงที่มีโปรโมชั่นพิเศษเท่านั้น โดยเส้นทางที่เธอใช้มักจะเป็นจากพหลโยธินถึงสามย่าน

เมื่อถามถึงความมั่นใจในความปลอดภัยของรถไฟใต้ดินหลังจากเกิดเหตุการณ์รถไฟชนกันนั้น สุภาภรณ์บอกเราว่า "ยังมีความมั่นใจในระบบความปลอดภัยอยู่ เพราะเชื่อว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความผิดพลาดของคน ไม่น่าจะมาจากตัวระบบ"

สุภาภรณ์กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะรีบไปเรียนว่า "ยังไงก็ตาม...อุบัติเหตุมันก็เกิดได้ทุกที่นะแหละ ถ้ามันจะเกิดซะอย่าง แต่ในรถไฟใต้ดินน่าจะเกิดได้ยากกว่าที่อื่นๆ"

ก่อนที่จะเข้าสู่สถานี เราพบกับณัฐพล มธุลาภรังสรรค์ เขาบอกเราว่า "ธรรมดาไม่ค่อยได้ใช้บริการรถไฟใต้ดินสักเท่าไหร่ จะใช้บริการบ้างก็แค่ตอนมารับแฟนที่จุฬาฯ หรือไม่ก็ตอนที่ต้องไปเล่นดนตรีที่ร้านย่านลาดพร้าว"

เมื่อเราถามถึงความมั่นใจในการใช้บริการ ณัฐพลบอกกับเราว่า "หลังอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็น่าเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่คงมีบทเรียน และคอยดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แต่ถ้ายังคงเกิดเหตุอีกครั้ง ก็คงต้องคิดหนักว่าจะใช้บริการต่อไปหรือไม่"

"ธรรมดาจะใช้บริการบ่อย เพราะต้องนั่งไป-กลับบางซื่อ-สีลมเพื่อไปสอนทุกวัน" ศรีบังอร จุ้ยศิริ-อาจารย์โรงเรียนอัสสัมชัญบางรักที่เราพบในขณะที่อยู่บนรถไฟเล่าให้เราฟัง และเธอยังบอกกับเราอีกว่าโดยปรกติ ถ้ามีเส้นทางไหนที่พอจะไปด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินได้ เธอก็จะใช้บริการอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเร็วและสะดวกดี

"มั่นใจว่าน่าจะปลอดภัย เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่ยากจะเกิดขึ้นอีก อีกทั้งตอนที่รถไฟใต้ดินหยุดการเดินรถนั้นก็สร้างความลำบากและเสียเวลาในการเดินทางมากพอสมควร" ศรีบังอรบอกกับเราก่อนลงจากรถ "ยังไงก็คงต้องใช้บริการต่อ เพราะว่ามันสามารถประหยัดเวลาการเดินทางได้มากกว่า"

เรานั่งรถไฟกลับจากสถานีศูนย์วัฒนธรรม เพื่อนั่งกลับมายังสถานีสามย่านอีกครั้ง ก็พบว่าก็ยังมีผู้โดยสารมากพอสมควร จนถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อเราลงจากรถและเดินออกจากสถานี ก็พบว่าคนก็ยังคงทยอยเข้ามาใช้บริการอยู่เช่นเดิม จนทำให้เกิดคำถามว่า จริงๆ แล้วทุกอย่างกลับสู่ภาวะปรกติแล้วจริงๆ หรือว่าเป็นเพียงความปรกติบนความหวาดกลัวที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา หากเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นซ้ำสอง

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น...ความเชื่อมั่นที่หายไปก็คงยากจะกู้กลับคืน

ภาณุวัฒน์ อภิวัฒนชัย
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net