Skip to main content
sharethis

ร้อนแรงมาก เมื่อองค์บากมาถึงอเมริกา ปกติ yahoo.com จะทำนายได้ว่าหนังเรื่องไหนจะฮอต จากอัตราการ search แต่เมื่อเดือนมกราคม 2548 ที่ผ่านมา yahoo เห็นผิดสังเกตว่า มีคน search คำว่า ong bak เยอะเพิ่มขึ้นมา 1,135% จนเกิดอาการงงว่า หนังชื่อประหลาดนี้ เกิดเป็นที่นิยมขึ้นมาได้อย่างไร

ก็จะไม่ฮอตได้ยังไงเมื่อหนุ่มร่างสันทัดชาวอีสาน พนม ยีรัม เขย่าจอสะเทือนโดยไม่ต้องมี สตั๊นแมน และเนื้อหาของเรื่องก็ไม่ได้ซ้ำซากจนเดาออกเหมือนหนัง Hollywood ส่วนฉากซิ่งตุ๊ก ตุ๊กนั้น ก็ไม่มีใครเหมือน

มองในแง่ action นับว่ายอดเยี่ยมระดับ Bruce Lee แต่ถ้ามองในแง่ของแก่นสารที่ผู้ทำหนังพยายามสื่อแล้ว ศิโรตม์ คร้ามไพบูลย์ คงให้เกรด C เขากล่าวไว้ว่า :

"องค์บากเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจในแง่การแสวงหาพื้นที่ทางการเมืองวัฒนธรรมให้กับคนอีสาน แต่น่าเศร้าที่เรื่องราวทั้งหมด ถูกบอกเล่าและอธิบายโดยโลกทัศน์แบบจารีต จึงมีจุดจบเป็นแค่ภาพยนตร์ที่แสดงความสามารถเชิงกายกรรมของนักแสดงนำเพียงคนเดียว"

อ้าว! ยังไม่ต้องผิดหวัง ไปดูหนังมาก่อน แล้วค่อยไปอ่านบทวิจารณ์ของศิโรตม์ ที่ประชาไทออนไลน์

จากหนังโนเนมสู่ความนิยม

ปรากฏการณ์ที่หนังเล็กๆ อย่างองค์บาก ประสบความสำเร็จเกินความคาดหวังนั้น สอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมบันเทิง ที่เริ่มกระจายศูนย์มากขึ้น ซึ่งเดิมมีบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น ที่คุมตลาดอยู่ แต่ปัจจุบันเราจะพบว่า หนังที่ไม่มีทีท่าว่าจะดัง นำแสดงโดยนักแสดงโนเนม ก็สามารถพุ่งสู่ความนิยมสูงสุดได้ โดยไม่ต้องทุ่มทุนมากนัก

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี กล้องดิจิตอลวีดีโอที่ราคาถูกลงเรื่อยๆ ทำให้ศิลปินอิสระสามารถเข้าตีตลาดได้ โดยไม่ต้องผ่านนายหน้าคนใด ประกอบกับวีซีดีที่ช่วยกระจายหนังได้อย่างรวดเร็วด้วยต้นทุนที่ถูก และความเชื่อมโยงของข้อมูลข่าวสารทั่วโลกผ่านอินเตอร์เนต จึงทำให้หนังเล็กๆ เกิดเป็นมีม (meme) ที่กระจายผ่านมวลชนอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไวรัส

ในวงการสื่อสารมวลชนก็เช่นเดียวกัน พบว่าสมัยนี้ คนธรรมดาสามัญสามารถสร้างสื่อด้วยตัวเอง กระทั่งได้รับความนิยมจนหนังสือพิมพ์ต้องยอมแพ้ ที่สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1998 พบว่าหนังสือพิมพ์กระดาษต้องเจ๊งไปประมาณพันกว่าราย ในขณะที่วัฒนธรรม "BLOGGING" ได้ให้กำเนิดสื่อออนไลน์ในรูปแบบใหม่ประมาณ 50,000 ฉบับ

ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิงหรือวงการสื่อ เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีได้ช่วยเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ ในการเลือกคัดสรรความจริงในรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองได้ (ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบบันเทิง หรือข้อมูลจากสื่อ) แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งในสังคม ที่อ้างตนว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ และต้องการรวบอำนาจมาไว้ที่ศูนย์กลาง เพื่อที่จะได้คอยบอกทิศทางและจัดระเบียบให้กับสังคม ว่าอะไรควรบริโภค อะไรไม่ควรบริโภค

น่าติดตามว่า คนกลุ่มนี้จะสามารถอ้างความชอบธรรมไปได้นานอีกแค่ไหน ในยุคที่ผู้คนสามารถมีทางเลือกของตัวเองได้ โดยแทบจะหันหลังและทอดทิ้งอำนาจจากศูนย์กลาง

ที่มา :http://thaifriendforum.blogspot.com/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net