Skip to main content
sharethis

"ปลอด" ลงพื้นที่ตรวจสอบไนท์ซาฟารี ทหารช่างเร่งมือโครงสร้างเกือบเสร็จ ค้างเพียงภูมิทัศน์และระบบไฟ ที่จะถึงเมษายนอาจคืบหน้าเพียงครึ่ง ลั่นจะเปิดทดลองระบบไปก่อนสงกรานต์นี้ ยอม
รับหนักใจสัตว์ป่าจากเคนยามีปัญหาต่อต้านมาไม่ทันตามกำหนด หาทางออกเฟ้นสัตว์แอฟริกาจากไทยเข้าก่อน จวงเอ็นจีโออเมริกาไล่กลับไปดูประเทศตัวเอง ขณะที่ "เยาวภา" เห็นว่าควรเปิดเมื่อพร้อม

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2548 นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการเพื่อศึกษาวางแผน และดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสวนสัตว์กลางคืน จังหวัดเชียงใหม่และคณะ เดินทางเข้าตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างสวนสัตว์กลางคือ "เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี" ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยพันเอกบุญฤทธิ์ เลิศวัฒนเรืองชัย ผู้บังคับหน่วยงานก่อสร้างโครงการ กรมการทหารช่างรายงานว่า โครงสร้างพื้นฐานที่ทหารช่างดูแล คืบหน้ากว่าร้อยละ 98 พร้อมที่จะส่งมอบงานให้ทั้งหมดภายในเดือนมีนาคมนี้

โดยบรรยากาศภายในโครงการ ถนนทางเข้าโครงการเกือบเรียบร้อย อาคารสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ทรงล้านนาประยุกต์ ประดับด้วยประติมากรรมช้างสร้างเกือบแล้วเสร็จคงเหลือการตกแต่ง ขณะที่ส่วนจัดแสดงสัตว์ก็ได้ขุดทางน้ำ ทำกรงพักสัตว์คืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะส่วนของทาง
เดินชมสัตว์ หรือจาร์กัวร์เทรล ที่คาดว่าน่าจะเป็นส่วนแรกที่เปิดแสดงได้

นายปลอดประสพให้สัมภาษณ์ว่าที่นี่จะเป็นไนท์ซาฟารีที่สวยงามที่สุดในโลก ต่างชาติหากจะมาแข่งขันต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีจึงจะชนะได้ ที่นี่จะเป็นของขวัญที่สวยที่สุดของชาวเชียงใหม่และประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่ได้กำหนดไว้ว่าจะเปิดให้บริการในวันสงกรานต์ 13 เมษายน 2548 ทันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทันแต่อาจไม่ครบตามที่คิดไว้ตอนแรก โดยจะเปิดเพียงบางส่วนและจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาดู โดยเชื่อว่า งานก่อสร้างแล้วเสร็จแน่ งานภูมิทัศน์และงานระบบไฟอาจทำได้ประมาณร้อยละ 50 ซึ่งถ้าเปิดได้ ก็จะเปิดเฉพาะส่วนของจาร์กัวร์เทรล หรือทางเดินชมสัตว์ขนาดเล็กรอบสัตว์น้ำ ซึ่งจะได้เห็นหมาไน ตัวนิ่ม จิงโจ้ ฯลฯ เพื่อจะได้ทดสอบตัวเองเรื่องการบริหารจัดการว่าจะติดขัดส่วนไหนด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ในช่วงแรก จะไม่เก็บค่าเข้าชม แต่จะต้องแจ้งจองล่วงหน้าก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสัตว์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญนั้น นายปลอดประสพยอมรับว่าเป็นปัญหาที่หนักใจ เนื่องจากขณะนี้สัตว์ในส่วนของภายในประเทศ ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว แต่สัตว์จากประเทศออสเตรเลีย ล่าช้าไปมาก เนื่องจากเบื้องต้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมได้มอบให้องค์การสวนสัตว์เป็นผู้จัดการ เพิ่งแก้ไขให้มอบคืนมาอยู่ในความดูแลของสำนัก
งานไนท์ซาฟารีเมื่อ 15 วันที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าร้อยละ 60 ของสัตว์ที่ประสานงานไป จะได้ ยกเว้นหมีโคอล่าที่ต้องรออีก 3 เดือน

ขณะที่สัตว์ป่าแอฟริกาจากประเทศเคนยาคือ ปัญหาใหญ่ เนื่องจากองค์กรพัฒนาเอกชนด้านพิทักษ์สัตว์ทั้งจากไทย เคนยา อเมริกา และยุโรปโจมตีโครงการนี้อยู่ ทำให้ยังไม่สามารถส่งสัตว์ออกมาให้ไทยได้ ทั้งๆ ที่ตนได้ส่งค่าใช้จ่ายค่าขนส่ง และเตรียมเครื่องบิน C-130 จะไปขนสัตว์มาแล้ว แต่ถึงยังไม่สามารถมาได้ ตนก็พยายามจัดหาสัตว์แอฟริกาในเมืองไทยมาจำนวนหนึ่งจัดแสดงไปก่อน ซึ่งข้อดีคือเป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ อาหาร เชื่อมั่นว่าสามารถเลี้ยงรอดแน่ แต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพง ทั้งนี้นายปลอดประสพปฏิเสธที่จะบอกว่าจะนำมาจากที่ใด

นายปลอดประสพยังตั้งคำถามต่อการต่อต้านขององค์กรพิทักษ์สัตว์ต่างชาติด้วยว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องโจมตีโครงการไนท์ซาฟารี ในเมื่อสัตว์แอฟริกาในเมืองไทยมีมานานกว่า 30 ปี ทั้งในสัตว์ทั้งราชการและเอกชน แล้วทำไมไม่ต่อต้าน ต้องจำเพาะเฉพาะโครงการนี้ นอกจากนั้น ทุกปีประเทศแถบแอฟริกา ทั้งจากเคนยา แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้ ก็ส่งสัตว์ป่าไปยังอเมริกาและยุโรปทุกปี เหตุใดไม่พูด แต่พอส่งมาเมืองไทยก็ออกมาพูดเหมือนดูถูกว่าไทยไม่สามารถเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าฝรั่งจะเก่งกว่าคนไทย หรือฝรั่งจะรักสัตว์มากกว่าคนไทย ที่สำคัญศูนย์กลางการค้าสัตว์ป่าของโลกอยู่ที่อเมริกา มีหน่วยงานมาเสนอขายให้ตน แต่ตนไม่ซื้อแม้จะไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเพราะประเทศเคนยาจะมอบสัตว์ให้ไทยเพื่อความสัมพันธไมตรีต่อกันอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เอ็นจีโออเมริกันออกมาโวยวายคนขายนั้น ก็ควรหันกลับไปดูประเทศตัวเองมากกว่า

"เอ็นจีโอคงเข้าใจผิด อยากดัง หรือเห็นว่าการต่อต้านเป็นกิจกรรมที่แสดงว่า รักสัตว์เพื่อขอเงินจึงโจมตีประเทศไทย อยากจะให้ได้มาดูด้วยตาว่าเราพยายามให้ที่นี้คือไนท์ซาฟารีที่ดีที่สุดในโลกมากแค่ไหน"

ต่อข้อถามว่า องค์กรพิทักษ์สิทธิ์เคนยาระบุว่าประเทศเคนยาเสียเปรียบไทยมากที่มอบสัตว์ให้กว่า 300 ตัว แต่ไทยให้เพียงเสือและควาญช้างมาฝึกช้างแอฟริกาเท่านั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า ไทยให้ความช่วยเหลือเคนยามากมาย โดยเฉพาะด้านเทคนิคการฝึกอบรม ในอนาคตจะมีคนเคนยามาดูงานด้านการท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ การต่อรถ กิจการด้านการโรงแรม การเข้ามหาวิทยาลัย แทนที่จะไปเรียนที่ยุโรปหรืออเมริกาที่ค่าใช้จ่ายสูง ส่วนเรื่องการให้เสือ 5 ตัวเป็นเรื่องที่ตนเสนอมอบให้เอง เพราะได้รับมอบมาจากสวนเสือศรีราชา ส่วนการฝึกช้างเพราะเราเชื่อว่าน่าจะได้ทดลองฝีกช้างแอฟริกาที่คนมักเชื่อว่าฝึกไม่ได้

นายปลอดประสพเชื่อว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีน่าจะเปิดตัวเต็มโครงการได้ทั้งหมด ในวันที่ 1 มกราคม 2549 ซึ่งสิทธิประโยชน์ภายในหลังจากนี้ร้านค้าต่างๆ ที่จะเข้ามาจะต้องเสียค่า
ธรรมเนียม และแบ่งสัดส่วนผลกำไรในโครงการด้วย โดยมีเป้าหมายให้เป็นผู้ประกอบการเชียง
ใหม่ด้วย ทั้งนี้กำไรอันเป็นผลพวงของโครงการนี้ไม่ได้อยู่ที่การเก็บค่าตั๋วเข้าชม แต่อยู่ที่การที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเชียงใหม่มากขึ้น ท่องเที่ยวยาวนานขึ้นและกระจายรายได้ในภาคส่วนของการท่องเที่ยวมากกว่า จึงคิดอัตราค่าธรรมเนียมเข้าชมอัตราเดิมคือคนไทย 200 บาท ต่างชาติ 400 บาทเป็นการเริ่มต้น

ด้านนายอุดมพร อาณัติวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 16 กล่าวถึงประเด็นการจัดหาน้ำเพื่อใช้ โครงการว่า จะใช้น้ำราวประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งขอยืนยันว่า จะไม่เกิดปัญหาการแย่งน้ำจากแหล่งใกล้เคียงมาใช้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้ขุดบ่อน้ำบาดาลไว้แล้วจำนวน 15 บ่อ สูบน้ำขึ้นมาใช้ได้ชั่วโมงละ 95 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ด้านนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีจะได้มาร่วมงานสงกรานต์ที่เชียงใหม่ปีนี้หรือไม่ ส่วนการเปิดไนท์ซาฟารีได้ยินว่ากระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เคยกำหนดไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะทันหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะทำให้พร้อมก่อนแล้วค่อยเปิดจะดีกว่า

ขณะที่ ดร.ณรรต ปิ่นน้อย นักเศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ธนาคารโลกหรือเวิร์ลแแบงก์กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจัดสร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีโดยใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติว่าในเชิงเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมคิดว่าเรื่องสำคัญที่สุดรัฐบาลควรจะตระหนักถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับกับต้นทุนสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นว่าได้มีการพิจารณาอย่างครบถ้วนหรือยังแล้วให้นำมาเป็นตัวประกอบการตัดสินใจโดยเฉพาะประโยชน์ของไนท์ซาฟารีคืออะไรและผลกระทบจากโครงการมีอะไรบ้าง เพราะการแปลงอุทยานแห่งชาติเป็นทุน หากไม่สามารถวิเคราะห์ชัดเจนว่าทำไปแล้วเกิดประโยชน์มากน้อยแค่ไหน แล้วผลกระทบตาม มาเป็นอย่างไร ก็จะเป็นปัญหา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net