Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 24 มี.ค.48 กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย จ.สระบุรี กว่า 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือให้กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอให้ทบทวนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแก่โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ต.บ้านป่า จ.สระบุรี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังก๊าซมีกำลังการผลิต 1,468 เมกกะวัตต์ และกำลังจะดำเนินการก่อสร้างหลังจากได้รับใบอนุญาต

ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า บริษัท กัลฟ์ พาวเวอร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด เจ้าของโครงการดำเนินโครงการโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน การศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ก็เป็นไปโดยรวบรัดและผู้ตรวจสอบไม่เคยลงพื้นที่ศึกษาจริง อีกทั้งน้ำเสียที่โรงงานจะปล่อยลงสู่แม่น้ำป่าสักกว่าวันละ 14,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำเข้มข้นปนเปื้อนสารเคมีกว่า 11 ชนิดไม่สามารถนำไปใช้ในการเกษตรได้ จะยิ่งซ้ำเติมความเน่าเสียของแม่น้ำอย่างรุนแรง จึงเรียกร้องให้กรมโรงงานยับยั้งการให้ใบอนุญาตดังกล่าว

ด้านนายวีระชาติ บุญนาค รองอธิบดีกรมโรงงาน กล่าวว่า ได้ออกใบอนุญาตให้แก่โรงไฟฟ้าไปแล้ว เพราะโดยกระบวนการกรมโรงงานถือเป็นปลายน้ำ ซึ่งต้องอนุมัติไปตามขั้นตอนหลังจากมีความเห็นชอบจากหน่วยงานอื่นๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข้อร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ก็จะทำหนังสือเพื่อขอยับยั้งใบอนุญาตไปยังเจ้ากระทรวง หากผู้ใหญ่เห็นชอบก็จะแจ้งยับยั้งไปยังผู้ประกอบการ ซึ่งคงไม่ขัดข้องอะไร เพราะยังไม่ได้ก่อสร้าง

นอกจากนี้รองอธิบดีกรมโรงงานยังได้รับปากจะรวบรวมข้อมูลเรื่องมลภาวะในภาพรวมของจังหวัดสระบุรีมอบให้แก่ชาวบ้านตามที่ร้องขอภายใน 5 วัน และหลังจากนั้นจะทำการนัดหมายเพื่อลงพื้นที่ไปสำรวจสภาพจริง

ส่วนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชวาลวุฑฒ ไชยนุวัติ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และนายละเอียด สอบน้ำเขียว รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ขอให้ทบทวนการอนุมัติของสำนักชลประทานเขต 10 ให้โรงไฟฟ้าใช้น้ำในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าถึงวันละ 54,000 ลูกบาศก์เมตร ในขณะที่มีหนังสือแจ้งไปยังผู้นำชุมชนว่าให้ชาวบ้านลดพื้นที่การทำนาปรังเพราะน้ำไม่พอใช้

"สระบุรีไม่ได้มีแต่พื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่เกษตรก็มีมาก มีนาปรังร่วม 40,000 ไร่ และน้ำหน้าแล้งก็ไม่ค่อยจะพอใช้กันอยู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้าน 5 อำเภอกำลังรอใช้น้ำจากโครงการพระราชดำริคลองส่งน้ำแก่งคอย-บ้านหมออยู่ ซึ่งเลื่อนการปล่อยปล่อยน้ำจากปีที่แล้วจนปีนี้ก็ยังไม่ปล่อย เพราะน้ำมีไม่พอ แต่กรมชลประทานกลับไปอนุมัติน้ำให้กับอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างยิ่ง" นายประสิทธิ์ อินทโชติ ตัวแทนชาวนาจากแก่งคอยที่มาร่วมคัดค้านกล่าว

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้รับปากจะไปประสานกับหน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวสำนักชลประทานเขต 10 มีอำนาจอนุมัติเองเลยหรือไม่ และใช้พื้นฐานอะไรในการพิจารณา คาดว่าน่าจะเกิดจากการขาดความรอบคอบ ส่วนตัวเลขการใช้น้ำและการปล่อยน้ำเสียของโรงงานต่างๆ ริมแม่น้ำป่าสักรวมถึงรายละเอียดการปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น จะแจ้งให้ชาวบ้านทราบภายใน 5 วันนี้เช่นเดียวกับกรมโรงงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net