ประชาไท - 31 มี.ค.48 หัวหน้าทีมเจรจาเอเผยนาทีสุดท้าย คุยเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อดูข้อเสนอสหรัฐ แต่ไม่พร้อมคุย "เปิดเสรีทางการเงิน" ยันรอบนี้แค่หารือไม่มีผลผูกมัด

นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม หัวหน้าคณะเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐ แถลงข่าวก่อนการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย - สหรัฐ ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 4-9 เม.ย.ที่พัทยายอมรับว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นการหารือร่วมกันใน 20 กลุ่ม ฝ่ายไทยเป็นผู้เสนอ 7 กลุ่ม โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความเป็นหุ้นส่วนในระยะยาว

นายนิตย์ยอมรับว่า ใน 20 กลุ่มนี้มีประเด็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา (IP: Intellectual Property) รวมอยู่ด้วย หลังจากก่อนหน้าที่มีองค์การพัฒนาเอกชนมีการเคลื่อนไหวอย่างหนักเพื่อคัดค้านไม่ให้มีการเจรจาในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากจะกระทบกับราคายาที่ใช้รักษาผู้ป่วยเรื้องรังหลายโรค

"ถ้าเราไม่เจรจาเรื่องไอพีก็อาจมีผลให้เราไม่ต้องเจรจา มันอยู่ในกระบวนการ เราต้องฟังก่อน แต่ยืนยันว่าเรายังไม่ได้ยอมอะไรสักอย่าง และกลับจากพัทยาแล้วยังไม่มีอะไรเป็นข้อผูกมัด สิ่งที่เป็นห่วงกันเรื่องยาผมก็รับฟังรับทราบหมดแล้ว" นายนิตย์กล่าว

หัวหน้าคณะเจรจากล่าวว่า อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่จะไม่มีการเจรจาก็คือ การเปิดเสรีทางการเงิน รวมถึงเรื่องระเบียบวิธีทางศุลกากร เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม ขณะที่ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญายังมีความพร้อมเจรจามากกว่า ทั้งนี้ การเจรจานี้จะไม่มีการจำกัดเวลา ขณะนี้เป็นรอบที่ 3 ก็ยังไม่มีการตกลงอะไร และอาจต้องคุยกันอีกหลายรอบกว่าที่ฝ่ายบริหารจะเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งอาจต้องยอมเสียบางอย่าง เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ

เมื่อถามว่า การเจรจานี้จะอยู่ในกรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) หรือไม่ นายนิตย์กล่าวว่า กรอบของดับบลิวทีโอก็เป็นส่วนหนึ่ง คงไม่ฉีกทิ้ง แต่บางเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้ในกรอบกว้างของดับบลิวทีโอ ก็ต้องมาพูดคุยกันในระดับทวิภาคี ซึ่งมันอาจเป็นประโยชน์กับประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม นายนิตย์ยืนยันว่าการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีทวีภาคีนี้ไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาเหมือนของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากกฎหมายไทยระบุให้การเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ซึ่งจะนำเข้าสภาต่อเมื่อมีการแก้หรือเพิ่มเติมกฎหมาย

"ส่วนเรื่องข้อเสนอที่เขาขอมานั้นมันเป็นมารยาท ต้องรอให้ถึงขั้นหนึ่งก่อนจึงจะอธิบายได้ คงต้องรอดูวันที่ 8 เม.ย.นี้ซึ่งจะแถลงข่าวที่พัทยา ส่วนข้อวิตกกังวลนั้น ผมยังไม่เห็นอะไรใหม่ เมื่อแนวโน้มมันค่อนข้างชัด ผมพร้อมหารือ ก็จะสนทนากับมวลประชากรทั้งหลายที่สนใจเรื่องนี้อย่างสร้างสรรค์เอง เสียเวลาไปยืนคอยข้างนอก" หัวหน้าทีมเจรจากล่าว