Skip to main content
sharethis

ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ อันเป็นกิจกรรมไฮไลต์ที่ในวงการท่องเที่ยวถือว่าเป็นสุดยอดที่จะทำกำไร สร้างเม็ดเงินให้เป็นน้ำหล่อเลี้ยงกระเป๋าคนทำงานไปได้อีกเฮือกหนึ่ง

แต่ผู้คนพลุกพล่านเต็มเมืองเช่นนี้ก็เป็นโอกาสชั้นดีที่กลุ่มมิจฉาชีพจากต่างแดน จะเข้ามาปะปนในคราบนักท่องเที่ยว ฉ้อฉล และฉกฉวยเม็ดเงินทั้งจากกระเป๋านักท่องเที่ยวเอง และจากผู้ประกอบ
การคนไทยที่ตรากตรำทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยไปโดยง่ายดาย

เมื่อวันที่ 21 มีค.นี้ พตอ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.3 ป.นำกำลังตำรวจกองปราบ ร่วมกับตำรวจ สภ.ต.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ จับกุม นายลี ซอง ซู อายุ 33 ปี นายลี จอง ชิน อายุ 39 ปี นายลี จอง ซู และ นายคิม คองโฮ อายุ 33 ปี ได้หน้าสถานอาบอบนวด ย่านถนนเจริญเมือง ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม โดยแต่ละบัตรมีแถบแม่เหล็กติดครบรวม 18 แผ่น

ก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบ ได้รับการร้องเรียนจากธนาคาร ห้างร้าน สถาบันการเงินต่างๆ ว่ามีแก๊งชาวต่างชาติ ลอบนำบัตรเครดิตมารูดซื้อสินค้า จึงทำการสืบสวนจนพบว่า มีบริษัท ห้างร้านต่างๆตกเป็นเหยื่อสูญเสียคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายกลุ่มแก๊งคนร้าย จึงสืบสวนหาตัวจนทราบว่าหลบหนีมาเตรียมก่อคดีในเชียงใหม่ จึงตามมาจับกุมตัวได้

ต่อมาตำรวจได้พากลุ่มผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านเช่า ย่านถนนลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน พบบัตรเครดิตปลอม 21 ใบ จึงยึดเป็นของกลาง เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพ จึงนำตัวเดินทางเข้าไปดำเนินคดีที่กองปราบปรามกรุงเทพ

วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อ.เมืองเชียงให่ นำโดย พ.ต.ท.นริศ สอนประดิษฐ์ สว.สส.กับพวก ร่วมกันจับกุม นายไฮโม มุคเคน เบริกา อายุ 57 ปี ชาวเยอรมันพร้อมของกลาง หนังสือเดินทางปลอม 2 ใบ บัตรเครดิตปลอม 2 ใบ ดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ โดยนายไฮโม ได้ทำทีเข้าไปซื้อนาฬิกา 2 เรือน
ราคารวม 132,000 บาท จากนั้นจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตรูด ซึ่งเจ้าของร้ายนำสลิปขอขึ้นเงินแต่ไม่ได้ เพราะเป็นบัตรปลอมจึงร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี

นั่นเป็น 2 คดีที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่มิจฉาชีพเหล่านี้กระทำในพื้นที่ภาคเหนือ
พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ โชติกาญจนวัฒน์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 (เชียงใหม่) บอกกับ "พลเมืองเหนือ"ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้อยู่ เพราะมักจะหลบหนีการจับกุมจากพื้นที่ภาคเหนือไปกรุงเทพ พัทยา ซึ่งเมื่อพื้นที่ใดเข้มงวดจับกุม ก็จะย้ายที่หนีมาตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย เป็นวงจรเช่นนี้

รูปแบบพฤติกรรมของมิจฉาชีพเหล่านี้ เช่นแก๊งดอลลาร์ดำ เป็นกลุ่มชาวผิวสีจากแอฟริกา จะเข้ามาหลอกนักท่องเที่ยวด้วยกันว่า มีธนบัตรดอลลาร์จำนวนมากที่เปื้อนสีดำทั้งหมด แต่มีน้ำยาล้างออก ซึ่งได้ทดลองล้างดอลลาร์จริงให้เหยื่อตายใจก่อน จากนั้นบอกว่าน้ำยาดังกล่าวเป็นชนิดพิเศษต้องสั่งซื้อจากอเมริกา แล้วก็นำดอลลาร์เปื้อนนั้นใหญ่เหยื่อไว้ แต่เหยื่อต้องให้เงินค่าสั่งซื้อน้ำยาให้กลายแสนบาท เมื่อได้น้ำยาแล้วลองล้างดูกลายเป็นกระดาษเปล่าไปเสีย ส่วนเงินจริงของตัวเองถูกเชิดนี้ไปแล้ว

แก๊งฟิลิปปินส์ที่หลอกนักท่องเที่ยวด้วยกันเล่นการพนันก็มาก ช่วงนี้แก๊งจากยุโรป และเกาหลีมาวุ่นวายเรื่องบัตรเครดิตปลอม นอกจากนั้นยังมีกรณีลักเล็ก ขโมยน้อย สิ่งของนักท่องเที่ยวหายระหว่างทางก็มี

ส่วนที่นักท่องเที่ยวต่างชาติถูกคนไทยหลอกก็มี ที่เป็นข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน กรณีแก๊งกระเทยแสบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้มงวดสอบประวัติกระเทยที่เตร็ดเตร่อยู่ข้างถนน เคยระดมจับแล้วก็กลับมาโผล่อีก จะมีพฤติกรรมลวงนักท่องเที่ยวไปหลับนอน แล้วมอมยา ก่อนขโมยของ

และที่นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังช่วงนี้คือการเช่ารถจักรยานยนต์แล้วนำของมีค่าไว้ตะกร้าหน้ารถ
จะมีแก๊งตามประกบแล้ววิ่งราวนำของมีค่าไปก็มาก

แต่ก็มีความแสบจากตัวนักท่องเที่ยวเองก็มี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ยอมรับว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าสิ่งของมีค่าถูกลักขโมย เพื่อที่จะนำบันทึกประจำวันนั้นไปเคลมประกันจากบริษัทนำเที่ยว หรือจากบริษัทผู้ผลิตสิ่งของต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระมัดระวังสอบปากคำและบอกให้นักท่องเที่ยวได้รู้ว่าการแจ้งความเท็จมีโทษเช่นไร ก็รีบหนีหายไปก็มี

นับว่าเป็นภัย เป็นดาบสองคมสำหรับการเข้ามาที่คับคั่งของกลุ่มนักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างบ้านเรานัก

ส่วนการเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเชียงใหม่มากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวบอกว่า ได้วางแผนไว้แล้ว โดยจัดกำลังรถสายตรวจจราจรไปตามถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นจุดที่ประชาชนจะหลั่งไหลเข้ามา ประสานงานร่วมกับร้านยาง กระจง ซ่อมหม้อน้ำ ซ่อมแอร์ หากเกิดเหตุที่นักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อหมาย
เลข 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

มีการจัดกำลังตำรวจอำนวยความสะดวกในถนนหลวง วางกำลังรอบคูเมือง จุดที่มีการเล่นสาดน้ำมากเช่นข่วงประตูท่าแพ รถสายตรวจดูแลนักท่องเที่ยวตามเกสท์เฮ้าส์ ถนนลอยเคราะห์ ถนนราชดำเนิน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญเช่นไนท์บาร์ซาร์จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึงเที่ยวคืนบริเวณสถานีขนส่งอาเขตก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จำนวจอำนวยความสะดวกกรณีกระเป๋าหรือสัมภาระสูญหาย

การซื้อตั๋วแล้วมีปัญหา รวมทั้งที่สนามบินเชียงใหม่ด้วย พร้อมกันนี้ตำรวจท่องเที่ยวยุคนี้ยังได้จัดทำวารสารตำรวจท่องเที่ยว ที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษให้เป็นคู่มือแนะนำการปฏิบัติตัวแก่นักท่องเที่ยวด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศได้มีความอุ่นใจ ปลอดภัยในการมาเยือนเมืองเหนือมากที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net