Skip to main content
sharethis

โลกาภิวัตน์ ทำโลกเผชิญหน้าเหตุก่อการร้าย แม้วชี้"สันติสุข" คือเป้าหมายของทุกศาสนา …ท่ามกลางเสียงบึ้ม ! ที่หาดใหญ่

เป็นที่เฝ้ารอเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้รับฟังสุนทรพจน์พิเศษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่อง "การสร้างสันติสำหรับประชาคมทุกคน"ในการประชุมสมัชชาสภาคริสเตียนแห่งเอเชีย ที่เชียงใหม่ เพราะคืนก่อนที่สุนทรพจน์นี้จะเริ่มต้นขึ้น ได้เกิดเหตุระเบิด 3 จุดที่จังหวัดสงขลา อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญ พื้นที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ถือว่าเป็นพื้นที่สัญลักษณ์ที่แม้ไม่อยากคิดแต่ก็ต้องคิดว่า เหตุการณ์ก่อเหตุร้ายได้ลุกลามออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนเสียแล้ว

นายกรัฐมนตรีเริ่มสุนทรพจน์ด้วยการกล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไว้อาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระสันตปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ประมุขแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมัน
คาทอลิก และกล่าวถึงบทบาทของสภาคริสตจักรมีมากมายในประเทศไทยโดยเฉพาะการสร้างระบบการศึกษาอันแข็งแกร่งให้เมืองไทย โดยตนเองรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เรียนจบจากโรงเรียน
มงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนคริสเตียน นอกจากนั้นภรรยาและลูกทุกคนก็จบการศึกษาจากโรงเรียนคริสเตียนในประเทศไทยด้วย

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงประเด็น "สันติสุข"โดยเปรียบเทียบหลักยึดของหลายศาสนาว่า คือเป้าหมายที่ทุกศาสนาต้องการ ไม่ว่าจะเป็น "สันติ" ในศาสนาฮินดู ความเชื่อของคริสตศาสนิกชนว่าสันติสุขคือของขวัญของพระผู้เป็นเข้า แม้ในศาสนาอิสลามก็ยึดถึงสันติว่าเป็นของขวัญจาก
อัลเลาะห์เช่นกัน หรือแนวทางของพุทธศาสนาที่มุ่งหาสันติด้วยการไปสู่ "นิพพาน"

"หัวใจสำคัญของการประชุมครั้งนี้ มีความสำคัญต่อทุกศาสนา และเป็นเรื่องที่ประชาชนและรัฐบาลทุกประเทศเผชิญอยู่คือสันติภาพ ซึ่งบางครั้งสันติภาพถูกบิดเบือนไป ดังเห็นได้จากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงและการก่อการร้ายขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งการก่อการร้ายและเหตุการณ์ร้ายเป็นผลมาจากโลกาภิวัตน์ ซึ่งปัจจุบันทุกประเทศไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโลกาภิวัตน์ หรือปล่อยให้กระแสโลกาภิวัตน์พัดพาไปดังนั้นทุกประเทศจะต้องปรับตัวให้ทันเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ปฏิกิริยาของผู้ก่อการร้ายมีมานานนับศตวรรษแล้วกับความเชื่อทางศาสนา ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาว่าจะทำอย่างไรกับการเผชิญต่อการก่อการร้าย แต่อาจละเลยบางคำถามว่า ปัญหาการก่อการร้ายมีรากเหง้ามาจากที่ใด ซึ่งเราจำเป็นต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจ และเข้าให้ถึงปัญหา โดยแม้ว่าไทยจะไม่ใช่จุดที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายโดยตรง แต่โชคร้ายที่หลีกเลี่ยงบางเหตุการณ์ไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่หลายประเทศรวมทั้งไทยกำลังเผชิญคือปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดจากความเข้าใจที่ผิด การสื่อสารที่ผิดของรากฐานทางศาสนา แต่ตนจะไม่ยอมให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นท่ามกลางประชาชน จึงต้องเข้าใจปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ถ่องแท้ หรือไม่ให้ความขัดแย้งจากความเข้าใจผิด หรือความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นระหว่างกัน โดยต้องไม่วางเฉยหรือละเลยปล่อยให้ผู้ก่อความไม่สงบได้มีโอกาสขยายกำลัง รวมทั้งขจัดการก่อความไม่สงบต่างๆด้วยการร่วมมือ พัฒนา และเจรจาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายในการบริหารประเทศในสมัยที่ 2

"ผมเชื่อมั่นว่าหากผู้คนต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม ประเพณี ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกันแล้ว สุดท้ายจะนำมาซึ่งสังคมแห่งความปรองดองและสันติภาพ" นายกรัฐมนตรีกล่าว และเรียกเสียงปรบมือจากที่ประชุมสัชชาสภาคริสเตียนกว่า 500 คนกึกก้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร ต.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สารวัตรทหารกว่า 100 นาย และชุดสุนัขตรวจทุ่นระเบิด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เข้าตรวจความปลอดภัยและความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด รวมทั้งตลอดเส้นทางของขบวนรถจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ถึงโรงแรมด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net