Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ- 22 เม.ย.48 นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ จะเปิดเผยผลสอบกรณีล้อมปราบในมัสยิดกรือเซะ และกรณีสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ ในวันที่ 24 เมษายน 2548 ว่า ต้องชื่นชมการตัดสินใจของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่เห็นความสำคัญและความจำเป็นในการเปิดผลสอบสวนทั้ง 2 กรณี เพราะจะเป็นการไขกุญแจไปสู่ความจริง ซึ่งจะเป็นการสร้างต้นทุนความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ลดความหวาดระแวงหรือความตงเครียดในพื้นที่ลงได้ระดับหนึ่ง หากจำเป็นต้องปกปิดในส่วนของบุคคล โดยเฉพาะประชาชนที่มาให้ปากคำเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะรับได้

นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า อยากเรียกร้องอย่าให้ซ้ำรอยการเปิดผลสอบเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่มีการขีดทับชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะนายทหารตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการสลายการชุมนุม ขีดทับสถานที่ หรือรถจีเอ็มซีทหารที่ขนผู้ชุมนุมออกไปจากถนนราชดำเนิน ขีดทับแผนขั้นตอนการสลายการชุมนุม จนเกิดความรุนแรงขึ้น สุดท้ายการเปิดผลสอบครั้งนั้นแทบจะหาความจริงไม่ได้

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ถ้าผลสอบกรือเซะและตากใบพาดพิง หรือระบุชื่อนายทหารตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ก็ไม่ควรปกปิดหรือขีดทับไว้ เพราะถือว่าคนเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมาย เมื่อทำเกินอำนาจหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบตามความเหมาะสม ถ้ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าระดับไหนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องเยียวยากันอย่างเต็มที่

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ในฐานะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ จะเปิดเผยผลสอบทั้ง 2 กรณี น่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะทำให้ทุกฝ่ายทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น เชื่อว่าจะไม่กระทบคนใดคนหนึ่งมากเกินไป เพราะเป็นการเปิดเผยภายใต้กรอบที่ชัดเจน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ กล่าวว่า การเปิดเผยผลการสอบสวนกรณีกรือเซะและตากใบ น่าจะมีผลดีมากกว่า เพราะจะทำให้ฝ่ายต่างๆ เข้าใจ และหมดความเคลือบแคลงสงสัย เรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อ คือ การดูแลให้เป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการสอบสวนทั้ง 2 กรณี สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ที่กำลังดำเนินการอยู่ ควรดูแลให้ทั่วถึง การแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ที่สำคัญ คือ หน่วยงานที่ลงไปทำงาน จะต้องทำตามข้อเสนอให้ดี การเปิดเผยข้อมูลจึงจะเป็นประโยชน์

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 24 เม.ย ศกนี้ คณะกรรมการฯ จะเปิดผลสอบการสอบสวนกรณีกรือเซะและตากใบประมาณ 90 % ส่วนอีก 10% นั้นไม่เปิดเผยเนื่องจากเป็นข้อมูลที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net