Skip to main content
sharethis

ยะลา- 2 พ.ค.48 เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 ที่ห้องพิจารณาคดี 2 ศาลจังหวัดยะลาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีชันสูตรพลิกศพ นายอิลมีน นูรุลอาดิล ลูกชายของนายอุสมาน นูรุลอาดิล ทนายความจังหวัดปัตตานี ซึ่งถูกทหารพรานยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2547 ที่จังหวัดยะลา เนื่องจากคิดว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายอุสมานตั้งตนเป็นทนายทำหน้าที่ซักถามพยานที่ผู้ร้อง คือพนักงานอัยการจังหวัดยะลานำสืบและนำสืบพยานหลักฐานอื่น

นายอุสมาน เปิดเผยว่า ตนได้ร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานในคดีนี้อีก 4 ปาก มานำสืบ พยานในนัดเดียวคือ อาสาสมัครทหารพรานวิชาญ เพชรวงศ์ ผู้ลั่นไก จ่าสิบเอกเสาธง แก้วสว่าง นายแพทย์ทรงฤทธิ์ กมลมาตยกุล, พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ซึ่งศาลได้ออกหมายเรียกตามคำขอ สำหรับนัดต่อไปคือวันที่ 8 สิงหาคม 2548

ผู้ร้องได้นำพยานเข้าสืบในชั้นไต่สวนเพียง 1 ปาก คือนายอับดุลอาซิ หะยีดอเลาะ อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคยะลา เข้าเบิกความว่า ระหว่างที่นายมูฮัมหมัดรอมลี เจ๊ะเละ และนายอิลมีน มาเจรจากรณีตนพาภรรยาของนายมูฮัมหมัดรอมลีไปเที่ยว ทำให้นายมูฮัมหมัดรอมลี ไม่พอใจจึงสาดน้ำร้อนใส่และมีการกระชากคอเสื้อ จากนั้นได้ชักมีออกมาจะทำร้าย ตนจึงชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้า ก่อนที่ทั้ง 2 จะวิ่งหนีไปจนกระทั่งนายอิลมีนจะถูกทหารพรานยิงเสียชีวิต

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นโดยนายอับดุลอาซิ ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิงนายมูฮัมหมัดรอมลี และนายอิลมีน แต่กระสุนพลาดไปถูกนายดอรอฮิง หามะ ได้รับบาดเจ็บ ทั้งสองจึงวิ่งหนีเพราะเกรงว่านายอับดุลอาซิจะตามมายิงซ้ำ ระหว่างนั้นอาสาสมัครทหารพรานวิชาญ กับพวกอีก 4 คน ประสบเหตุได้
ตะ โกนสั่งให้โยนอาวุธปืนแล้วชูมือและคุกเข่าหมอบลงกับพื้น นายมูฮัมหมัดรอมลี จึงโยนอาวุธปืนบนถนน และทั้งสองได้หมอบลง จากนั้น อาสาสมัครทหารพรานวิชาญ กับพวกอีก 4 คน เข้ามาทำร้ายร่างกายและยิงนายอิลมีนเสียชีวิต

ต่อมานางยามีลา มารดาของนายอิลมีน และนายมูฮัมหมัดรอมลี ได้ยื่นฟ้องจ่าสิบเอกเสาธง แก้วสว่าง อาสาสมัครทหารพรานวิชาญ เพชรวงศ์ อาสาสมัครทหารพรานแสวง พรหมวิไล อาสาสมัครทหารพราน ดอเลาะหามะและอาสาสมัครทหารพรานสมศักดิ์ คละแดง ต่อศาลจังหวัดยะลา แต่ศาลจังหวัดยะลาไม่รับฟ้องโดยระบุว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน จึงส่งเรื่องไปให้ศาลจังหวัดทหารบกปัตตานีพิจารณา

ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2547 ศาลจังหวัดทหารบกปัตตานีมีหนังสือถึงศาลจังหวัดยะลา เรื่องความเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล โดยพิจารณาแล้วว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 ศาลจังหวัดยะลาจึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการชี้ขาดอำนาจศาล ซึ่งมีประธานศาลฎีกา เป็นประธานพิจารณาแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net