กรุงเทพฯ-9 พ.ค.48 "จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเพราะติดขัดในเรื่องทางเทคนิคที่ไม่สามารถดำเนินการได้เฉพาะในพื้นที่ 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไหร่" นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรีระบุ

ตามแนวทางที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เจรจากับบริษัทเอกชนผู้ให้บริการ ระบุว่า จะดำเนินการจัดระเบียบซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน(พรีเพด)ทั้งผู้ใช้รายเก่าและใหม่ โดยให้ผู้จดทะเบียนสำเนาบัตรประชาชนให้กับผู้ให้บริการ ซึ่งเดิมกำหนดให้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.ศกนี้

นายจาตุรนต์กล่าวว่า จำเป็นต้องเลื่อนมาตรการคุมซิมการ์ดในส่วนของผู้ใช้รายเก่าออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากมีอุปสรรคทางด้านเทคนิค

ทั้งนี้บริษัทเอกชนผู้ให้บริการระบุว่า ในทางเทคนิคไม่สามารถจำกัดวง การตัดสัญญาณเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ แต่หากต้องการดำเนินมาตรการครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จะต้องใช้เวลาจัดระบบการตัดสัญญาณประมาณ 6 เดือน ซึ่งนายจาตุรนต์ขอให้ภาคเอกชนกลับไปทบทวนและเร่งรัดให้เสร็จภายใน 3 เดือนแทน

"การดำเนินการต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่พิจารณาว่าบริษัทเอกชนจะสามารถทำได้แค่ไหน ขณะเดียวกันจะต้องหาวิธีการแก้ไขกรณีที่มีการนำซิมการ์ดจากนอกพื้นที่มาใช้ก่อเหตุซึ่งต้องมีระบบต่างหากที่ตัดสัญญาณซิมการ์ดจากนอกพื้นที่ไม่ให้ใช้การได้" รองนายก รัฐมนตรีกล่าว

ส่วนการบันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการพรีเพดรายใหม่นั้น วันเดียวกันมีการลงนามข้อตกลงร่วมระหว่างนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 7 ราย อาทิ ดีแทค เอไอเอส ฮัทช์ กิจการร่วมค้าไทยโมบาย ทีเอ ออเร้นจ์ โดยกำหนดให้ผู้ใช้บริการรายใหม่
ต้องกรอกแบบฟอร์มกับผู้ขายใน 6 ข้อคือ เลขหมายการขาย ชื่อสกุล เลขที่บัตรประจำตัว ประเภทของบัตรแสดงตัวชื่อร้านค้า และชื่อผู้ขาย โดยการซื้อซิมการ์ดไม่ได้จำกัดจำนวนบัตรที่ซื้อ

สำหรับบัตรแสดงตัวที่ใช้แสดงเป็นหลักฐานการซื้อซิมการ์ดนั้น ได้แก่ บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ พาสปอร์ต บัตรแรงงานต่างด้าว บัตรนักเรียน นักศึกษาที่ออกโดยหน่วยงานราชการ รวมทั้งบัตรอื่นๆ ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐและมีภาพเจ้าของบัตร

โดยเริ่มต้นจะมีการประเมินมาตรการดังกล่าวเมื่อใช้ครบ 2 เดือน และจะนำข้อมูลมาปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากขึ้นต่อไป