Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2548 ที่ห้องฟาฏอนี โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี คณะทนายความจำเลยคดีการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส 58 คน และทนายความคดีไต่สวนชันสูตรผลิกศพผู้เสียชีวิต 78 ศพ จากการขนย้ายผู้ชุมนุมจากหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้จัดประชุมเตรียมพร้อมในการว่าความและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีมอบให้กับทนายความทุกคน โดยมีนายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในฐานะประธานคณะทำงานช่วยเหลือประชาชนกรณีตากใบ สภาทนายความ เป็นประธานในที่ประชุม มีทนายความทั้ง 2 คดี เข้าร่วม 25 คน

ที่ประชุมนายสมชาย ได้มอบหมายให้นายรัษฎา มนูรัษฎา หนึ่งในคณะทนายความทั้ง 2 คดี เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยนายรัษฎาได้หารือต่อที่ประชุมกรณีที่มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุการสลายการชุมนุม 6 ศพ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อีก 1 ศพว่า สภาทนายควรดำเนิน การอย่างไร

ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นว่า การเสียชีวิตดังกล่าว เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้นต้องทำการไต่สวนชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายว่าด้วยการพิจารณาความอาญา แต่จนบัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมาแล้วกว่า 8เดือนเศษ แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีการดำเนินการให้มีการไต่สวนแต่อย่างใด

ทางคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนกรณีตากใบสภาทนายความ จะทำหนังสือสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และพนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้คณะทำงานจะติดต่อกับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ศพ ว่าต้องจะร้องขอให้มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพหรือไม่

นอกจากนี้นายรัษฎา ยังได้สอบถามในที่ประชุมว่า เห็นด้วยที่จะให้มีการถอนฟ้อง 58 จำเลย คดีการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบและผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 1 คนที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2548 หรือไม่

นายสิทธิพงษ์ จันทร์วิโรจน์ กล่าวว่าควรที่จะถอนฟ้องทั้งหมด ไม่เลือกถอนฟ้องเฉพาะจำเลยบางคน เพราะจะทำให้จำเลยบางคนและประชาชนในพื้นที่เกิดความรู้สึกว่ารัฐไม่มีความไม่เป็นธรรม รวมทั้งในสำนวนฟ้องมิได้อธิบายอย่างละเอียดว่าจำเลยแต่ละคนมีความผิดอย่างไร

ซึ่งในที่ประชุมจึงเห็นด้วยที่จะให้มีการถอนฟ้องจำเลยทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามการถอนฟ้องเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด และขึ้นอยู่กับตัวจำเลยทั้ง 58 คนเองว่าจะยินยอมให้ถอนฟ้องหรือไม่

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ยังได้ให้มีการเพิ่มประเด็นในคำให้การของจำเลยทั้ง 58 คน ว่า การที่มีการควบคุมผู้ชุมนุมอย่างทารุนโหดร้าย และมีการทรมาน เป็นการละเมิดกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามเป็นภาคีมาแล้ว และยังเป็นการละเมิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วย

ที่ประชุมยังให้อ้างถึงผลการสอบสวนของคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้ให้ความเห็นว่า ทหารบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้วและได้ลงโทษนายทหาร 3 นาย ที่เกี่ยวข้องให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว แสดงให้เห็นว่าจำเลยถูกฟ้องร้องโดยไม่เป็นธรรม ศาลสมควรพิพากษายกฟ้อง

สำหรับคำให้การเดิมของจำเลยทั้ง 58 คน คือ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ว่า ร่วมชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบ อั้งยี่ซ่องโจร มีอาวุธปืน ระเบิด เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก โดยทั้งหมดยืนยันว่าการชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวชุดรักษาความปลอดภัย 6 คน ที่ถูกจับกุมข้อหานำปืนไปให้กับผู้ก่อความไม่สงบนั้น เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งทนายจำเลยจะยื่นคำให้การของจำเลยต่อศาลจังหวัดนราธิวาสในวันนัดแถลงเปิดคดี วันที่ 8 กรกฎาคม 2548

สำหรับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีจำนวน 6 คน ได้แก่ 1.นายตูแวอารง มะหะมะเซ็ง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 6 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ 2.นายนิวัฒน์ ยาการียา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 1 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ

3.นายมาหะมะ อาสือมิง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/2 หมู่ 4 ตำบลมูโน๊ะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส 4.นายอาแวและ ปะจูกูเล็ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/4 หมู่ 3 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส 5.นายมะกอเซ็ง มามะ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/1 หมู่ 5 ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ 6.นายอับดุลตอเล๊ะ แซตอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส อีก 1 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ คือ นายเปาซี เจ๊ะมามะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่3 ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net