แถลงการณ์ชมรมอนุรักษ์ฯ กรณีโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2

แถลงการณ์ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย

5/1 ถ .พระพายัพ ต .แก่งคอย อ .แก่งคอย จ .สระบุรี 18110 โทร 0-3624-4833 , 0-3624-4381 , Fax 0-3625-1465

เรื่อง การข่มขู่คุกคามจากโครงการสร้างโรงไฟฟ้าที่แก่งคอย

ตามที่บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ต่างชาติถือหุ้นใหญ่ อ้างมติคณะรัฐ
มนตรีให้สร้างโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่บ้านหนองแหน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านป่า อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยได้ชี้แจงถึงความจำเป็นต่างๆนานา เพื่อให้ตนได้สร้างโรงไฟฟ้าให้ได้ ด้วยการจัดเลี้ยงพาคนไปดูงาน แทรกแซงกิจกรรมสังคมต่างๆ เช่น งานประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลแก่งคอยจัดเป็นประเพณีทุกปีและปีที่ผ่านมา ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะมีงานสีแสงเสียง

แต่กลับมีนายทุนใหญ่แอบอ้างชุมชนจัดงานแข่งขันขึ้นที่วัดแก่งคอยมีคนตรีดังให้คนดูฟรี เพื่อให้ชุมชนแตกแยก อ่อนแอ ไม่มีปากเสียง ทอดกฐินผ้าป่าให้ทุนการศึกษาและสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ต่างๆ แก่ชุมชน เช่นส่งเสริมอาชีพต่างๆ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่โดยตรงของหน่วยงานรัฐอยู่แล้ว ซึ่งทุกปีก็มีงบประ
มาณ เพื่อให้ช่วยสนับสนุนให้สร้างโรงไฟฟ้าซึ่งทำให้ดูคล้ายเป็นบริษัทนักบุญ ใครต้องการอะไรให้เงินสนับสนุนหมด เป็นที่ชื่นชอบของคนบางกลุ่มเท่านั้น

เพื่อสร้างภาพว่า โรงไฟฟ้าแก่งคอยมีความชอบธรรม ในการสร้างเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่สังคม เตรียมกระแสไฟฟ้าไว้ให้เพื่อพัฒนาประเทศและยามขาดแคลน เป็นความจริงหรือ....?

พวกเราชาวแก่งคอยและชาวสระบุรีส่วนใหญ่ไม่รู้มาก่อนว่า เดิมบริษัทนี้ได้สร้างโรงไฟฟ้าแก่งคอย 1 กำลังการผลิต 107 เมกะวัตต์ ประมาณ 5 ปี ก่อนแล้ว ที่ตำบลตาลเดี่ยวอำเภอแก่งคอย และจะขอสร้างอีกโรงมีขนาดกำลังการผลิต 1,468 เมกะวัตต์ ซึ่งใหญ่เป็น 14 เท่าของโรงที่แล้ว ห่างจากตลาดแก่งคอยประมาณ 2 กม.มูลค่าลงทุน 32,000 ล้านบาท ซึ่งถูกไล่มาจากบ่อนอก จังหวัดประจวบ
คีรีขันธ์ เดิมใช้ถ่านหิน แต่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติจาก ปตท.(บ.แปรรูปจากของรัฐโดยให้เอกชนเข้ามาเป็นเจ้าของร่วมทำกำไร ในปี47 ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เอกชนร่ำรวยจากประชาชนไปประ
มาณ 3 หมื่นล้านบาทในปีเดียว

แต่ถ้าเป็นของรัฐเหมือนเดิมก็จะเป็นเงินพัฒนาประเทศถึง 6 หมื่นล้านบาท) วันละ ประมาณ 260 ล้านลูกบาศก์ฟุต ใช้น้ำจากแม่น้ำป่าสักวันละ 54,000 ลูกบาศก์เมตร และปล่อยน้ำเสียถึง14,000 ลูกบาศก์เมตร ลงแม่น้ำป่าสักแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ 1ใน 5 สาย ที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆที่สำคัญๆ ซึ่งเสียถึงระดับ 5 ไม่เหมาะใช้ในการอุปโภคบริโภค ตามรายงานของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค7 สระบุรี เกษตรกรชาวสระบุรีกว่า 1,000 ราย ต้องขาดรายได้จากการทำนาปรังปีละ มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ให้กับเอกชนต่างชาติ

" จะให้เกษตรกรเสียสละไปถึงไหน " ชาวสระบุรีต้องรักษ์แม่น้ำป่าสัก อย่าให้ใครมาทำร้ายอีกเลย...... !! . เพื่อ ลูกๆ หลาน ๆ เราเองในอนาคต เขาจะอยู่ต่อไปอย่างไร เมื่อแม่น้ำเสียหายแล้วจะเอาน้ำที่ไหนใช้กัน....?

การปรารถนาดีของบริษัทดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ แก่แรงงานประมาณ 3 ,000 คน มีรายได้ช่วงก่อสร้างโรงงาน ประมาณ 2 ปี เมื่อเสร็จแล้วเป็นหน้าที่ของรัฐต้องรับดูแล เพราะเป็นโรงงานที่ใช้คนประมาณ 60 คน เท่านั้นในการควบคุมดูแล รายได้ที่เกิดขึ้น (ภาษีพลังงานยังไม่เป็นกฎหมายบริษัทอ้างจะผลัดดันให้เกิด ปีละประมาณ 100 ล้านบาทจะให้ชุมชนเป็นกองทุนส่งเสริมอาชีพ ) ถ้ากฎหมายออกไม่ได้ชุมชนจะได้ที่ไหน..... ?

ใครกันแน่ที่ได้ผลประโยชน์จริงๆ...........?. ประชาชน หรือ บริษัทฯต่างชาติ............?

ชมรมฯ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าฯ แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบก็อ้างว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ เราจึงขอทวงสิทธิการมีชีวิตอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดี มีน้ำ อากาศ บริสุทธิ์ ธรรมชาติที่งดงาม ไม่ต้อง
การให้ใครโดยเฉพาะต่างชาติ มาปล้นทรัพยากรของเราซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดอีกต่อไป .... !!!!
( เหมือนกับบางประเทศที่ถูกละเมิด )

คณะทำงานของชมรมฯ ได้แก่ นายพีระศักดิ์ สุขสำราญ นางสาวสุนันท์ พรหมยารัตน์ นายสมคิด ดวงแก้ว และนายประสิทธิ์ ดวงแก้ว จึงถูกบริษัทดังกล่าว แจ้งจับกับสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2548 เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ โดยเจตนา
โดยอาศัยอำนาจรัฐ เป็นเครื่องมือจับกุม

ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เป็นเจ้าของประเทศ ?
ที่ต้องการ สิทธิพื้นฐานในการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง
กับสิ่งแวดล้อมที่ดี มี น้ำ อาหาร อากาศที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติที่งดงาม.... !!

ชมรมฯ จึงขอต่อสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมจากต่างชาติ ให้แก่ลูกหลานในอนาคต............. !และขอเชิญชวนชาวสระบุรีและผู้รักความเป็นธรรมในสังคมร่วมต่อต้านการกระทำครั้งนี้.....
โดยการเข้าไปในระฆังดอทคอมบอก นายกฯ ช่วยกัน คนไทยหรือเปล่า ??

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท