กรุงปักกิ่ง - 13 มิ.ย.48 กรีนพีซปูดรอบสอง ข้าวจีเอ็มโอโผล่มณฑลกวางเจาในจีน หลัง 2 เดือนก่อนพบในหูเป่ย ระบุบริษัทของมหาวิทยาลัยจีนตัวการใหญ่ ทั้งทดลองทั้งขายเมล็ดพันธุ์

Sze Pang Cheung เจ้าหน้าที่รณรงค์ของกรีนพีซ ประเทศจีน เปิดเผยว่า พบข้าวดัดแปลงพันธุ กรรม (จีเอ็มโอ) แพร่ระบาดในเมืองกวางเจา เมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน ทำให้มีความกังวลใจว่า ข้าวจีเอ็มโออาจรั่วไหลเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารตามเมืองใหญ่ๆ เนื่องจากข้าวดังกล่าวยังไม่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรัฐบาลจีนก็อนุญาตให้ทำการทดลองพืชจีเอ็มโอในระดับไร่นาเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ปลูกเพื่อการค้า

ทั้งนี้ ข้าวดังกล่าวเป็นข้าวจีเอ็มโอบีทีเช่นเดียวกับครั้งที่แล้วที่พบในมณฑลหูเป่ย (Hubei) ราวปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคุณสมบัติผลิตสารพิษเพื่อต้านทานแมลงศัตรูพืช โดยยังมีข้อถกเถียงในแวดวงวิทยาศาสตร์ว่าสารพิษที่ข้าวบีทีผลิตขึ้นอาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

"เมล็ดพันธุ์ข้าวจีเอ็มโอบางชนิดที่นำมาขายในตลาดได้รับการโฆษณาว่า เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท นิว เทคโนโลยี (New Technology) ของมหาวิทยาลัยการเกษตรหัวจง (Huazhong) โดยมหาวิทยาลัยนี้เป็นแห่งเดียวกับที่รับผิดชอบการทดลองข้าวจีเอ็มโอระดับไร่นาในมณฑลหูเป่ย" Sze ระบุ

กรีนพีซ ประเทศจีน ประเมินว่า ปีนี้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวจีเอ็มโอถึง 29 ตัน ขายอยู่ในมณฑลหูเป่ย และถ้าไม่มีการเรียกเก็บกลับคืน เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เมื่อปลูกและเก็บเกี่ยวจะได้ผลผลิตเป็นข้าวจีเอ็มโอมากถึง 14,500 ตัน

Sze กล่าวเรียกร้องรัฐบาลจีนให้เร่งดำเนินมาตรการในการเรียกเก็บข้าวจีเอ็มโอที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากแปลงเพาะปลูกและจากห่วงโซ่อาหารโดยด่วน เนื่องจากครั้งที่แล้วเจ้าหน้าที่ทางการจีนแถลงว่าจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ขณะที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้ออกแสดงความห่วงกังวลเรื่องการปนเปื้อนดังกล่าวไปยังรัฐบาลจีนแล้วว่า

"เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทไรซ์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ออกแถลง การณ์เรียกร้องให้ยุติการทดลองข้าวจีเอ็มโอ ในสหรัฐฯ แล้ว เพราะผู้บริโภคไม่ต้องการอาหารจีเอ็มโอ" Sze กล่าวเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจประชามติของกรีนพีซเองในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า ร้อยละ 73 ของผู้บริโภคในเมืองกวางเจา ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ จะเลือกซื้อข้าวที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ

ทั้งนี้ ประเทศจีนเป็นประเทศที่ทำการปลูกและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก โดยในปี 2546 และ 2547 ประเทศจีนส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย เยอรมนี อังกฤษ สโลวัค โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ค เบลเยี่ยม อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน ฟินแลนด์ ออสเตรีย ไอวอรี่โคสท์ ไลบีเรีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ประเทศจีนยังส่งออกเมล็ดพันธุ์ข้าวไปยังเวียดนาม บังคลาเทศ กินี ปากีสถาน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

ด้านสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งยังไม่อนุญาตให้ทำการทดลองพืชจีเอ็มโอในระดับไร่นานั้น ล่าสุดตัวแทนบริษัท มอนซานโต้ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติที่ทำการผลิตและขายเมล็ดพันธุ์พืชจีเอ็มโอรายใหญ่ของโลก ได้เข้าพบคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำเสนอข้อมูลว่าประเทศไทยกำลังเสียโอกาสในการทำตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด เนื่องจากประเทศคู่ค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้หันไปใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดจีเอ็มโอแล้ว อาทิ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ขณะที่ตอนนี้บริษัททุกแห่งที่ผลิตเมล็ดพันธุ์เพื่อการค้าในประเทศไทยต่างมีศักยภาพในการผลิตจีเอ็มโอแล้วทั้งสิ้น รอเพียงรัฐบาลอนุญาตเท่านั้น