พระวรชายา - พระเจ้าหลานเธอ

ย้อนไปเมื่อราวต้นปี 2545 เชื่อว่าประชาชนชาวไทยยังจำกันได้เป็นอย่างดี เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะสื่อมวลชนเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของพระองค์

และในคราวนั้นนับเป็นครั้งแรกที่ทรงให้สื่อมวลชนได้รู้จักกับหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา อย่างเป็นทางการ ในโอกาสที่หม่อมศรีรัศมิ์เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สาขาวิทยาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธิราช

พระองค์ทรงตรัสว่า ทรงอยู่กับหม่อมศรีรัศมิ์ มาตั้งแต่ปี 2536 ดูใจและศึกษากันมานาน และเมื่อวันที่10 กุมภาพันธ์ 2544 ได้ทรงจดทะเบียนกันอย่างเงียบๆ และเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

"เราอายุ 50 ปีแล้ว คิดว่าควรจะเริ่มทำงานปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว อยากให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ น่ารัก และถูกต้องในสายตาประชาชน ไม่ใช่การมาหาเสียง หรือทำให้ป๊อปปูลาร์ แต่อยากให้ประชาชนได้สบายใจ หม่อมศรีรัศมิ์เป็นคนมีความเมตตา อ่อนโยน เป็นมิตรเข้ากับทุกคน และเข้ากับพระองค์ได้ มีความสงบเสงี่ยมเจียมตัว อดทน ไม่เคยให้ร้ายใคร ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย สบายๆ ที่สำคัญมีความอบอุ่นในครอบครัว ทำให้บ้านเป็นบ้าน เราอยากจะสร้างครอบครัวขึ้นมาให้ดี หม่อมมีหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ ภายในบ้าน ดูแลข้าราชบริพาร รวมทั้งถวายงานสมเด็จฯ เราใช้ชีวิตกันแบบสบายๆ ไม่มีอะไร ต่อไปอาจจะมีข่าวดีก็ได้ ซึ่งถ้าโชคดี ก็จะมีข่าวดี"

ระยะเวลาผ่านไปไม่นานเท่าใด "ข่าวดี" ที่ทรงตรัสไว้ก็มาถึง ช่วงเวลาแห่งความปลื้มปีติของปวงพสกนิกรชาวไทยก็พองโตอีกครั้งเมื่อแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ระบุว่าหม่อมศรีรัศมิ์ มีพระประสูติการ "พระโอรสองค์น้อย" ด้วยการผ่าตัด พระโอรสมีพระประสูติการเมื่อเวลา 18.35 น. วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2548 น้ำหนัก 2,680 กรัม ความยาวพระองค์ 47 เซนติเมตร รอบพระเศียร 31 เซนติเมตร ลืมพระเนตรเวลา 19.00 นาฬิกา พระเนตรโต พระนาสิกโด่ง

และวันนี้ความปลื้มปิติของปวงชนชาวไทยก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร์ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้ทรงอภิเษกสมรสกับหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา โดยถูกต้องทุกประการ และมีพระโอรสอันประสูติแต่หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา แล้ว จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

และในวันเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศฉบับที่สองว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่าหม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล พระธิดาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร บัดนี้ ทรงเจริญวัยพร้อมด้วยวุฒิปรีชาสามารถศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติสรรพกิจได้เป็นอันดี เป็นที่พอพระราชหฤทัย สมควรได้รับพระมหากรุณาให้ดำรงพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์ที่สูงขึ้น จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา หม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ พระราชทานพรให้ทรงวัยวัฒนายุกาล ทรงพรรณ สุข พล ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ พิพัฒนมงคล ทุกประการเทอญ ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน มีประกาศสำนักพระราชวังลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2548 ความว่า เลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ซึ่งประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2548 ตามขัตติยราชประเพณี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา

ส่วนการเฉลิมฉลองเฉลิมพระเกียรติ ที่ทางกรุงเทพมหานครจะจัดขึ้นนั้นในวันที่ 24 - 25 มิถุนายน นี้ ได้ขอความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำในเมืองไทยร่วมกันจัด โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อฟื้นประเพณีดั้งเดิมตามโบราณราชประเพณีไทยมีรายละเอียดการจัดงานในเบื้องต้น ประกอบด้วย 8 จุดคือ 1.ท้องสนามหลวง 2.ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 3.ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ 4.ซุ้มประตูจีน 5.สวนสันติชัยปราการ 6.สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 7. สวนสาธารณะอุทยานเบญจสิริเขตคลองเตย และ8.โรงละครภัทราวดีเธียเตอร์

เบื้องต้นวางแผนไว้ว่างานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. แบ่งเป็น 1.การจัดกิจกรรมใส่บาตร ณ ลานคนเมือง จากสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต 2.การลงนามถวายพระพร ณ ลานคนเมือง 3.การจัดมหรสพเฉลิมฉลอง โดยผนวกกิจกรรมตามประเพณีดั้งเดิม ประกอบด้วยขบวนแห่ตามโบราณราชประเพณี การแสดงรำโคม โมงคลุ่ม กุลาตีไม้ ละครใน โขน หนังใหญ่ และการแสดงตามยุคสมัย โดยรวมศิลปิน ดารา จากค่ายต่างๆ ซึ่งพิธีเปิดมีขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน เวลา 17.00 น. ณ ลานคนเมือง

สำหรับพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2514 พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม

ด้านการศึกษาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ก่อนจะเข้าศึกษาในสาขาวิชาวิทยาการจัดการ วิชาเอกการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อปี พ.ศ.2540 (หลักสูตร 4 ปี) และได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2545

ก่อนหน้านี้ทรงเข้าถวายการรับใช้ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 โดยรับผิดชอบหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ทั้งยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และทรงอภิเษกสมรสกันอย่างเงียบ ๆ และเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544

สำหรับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ ปัจจุบันทรงเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และมีความสนพระทัยในงานแฟชั่นดีไซน์เป็นพิเศษ และทรงมีพระปรีชาสามารถในกีฬาแบดมินตันมากเป็นพิเศษเช่นกัน เป็นนักกีฬาแบดมินตันชุดเยาวชนทีมชาติไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท