Skip to main content
sharethis

พระอธิการเอนก จันทปัญโญ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ป่าเวียงด้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ภาพจากนิตยสารสารคดี
------------------------------------------------------------
เชียงใหม่-23 มิ.ย.2548 "ปัญหาความขัดแย้งการแย่งชิงทรัพยากรฯ น้ำและที่ดินในเขตพื้นที่อำเภอฝาง ถือว่าเริ่มรุนแรงหนักขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน พระ กับกลุ่มนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อที่ดิน โดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้สนใจเข้ามาแก้ไข จนทำให้พวกนายทุนฮึกเหิมได้ใจและใช้ความรุนแรงอย่างอุกอาจเช่นนี้" พระอธิการเอนก จันทปัญโญ ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ป่าเวียงด้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เจ้าของรางวัลลูกโลกสีเขียว ประเภทบุคคลดีเด่น ประจำปี 2545 กล่าวกับผู้สื่อข่าวประชาไท ถึงกรณีเกิดการลอบสังหารพระสุพจน์ สุวโจ พระนักกิจกรรมในกลุ่มเสขิยธรรม กลุ่มพุทธทาสศึกษา และเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์สวนเมตตาธรรม มรณภาพในพื้นที่สถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม บ้านห้วยงู ต.สันทราย อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พระอธิการเอนก กล่าวว่า เป็นสิ่งที่น่าวิตกอย่างยิ่งและส่อให้เห็นว่า กลุ่มอิทธิพลในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำฝางนี้ ได้มีการใช้ความรุนแรงกันมากขึ้น ไม่ว่าในเรื่องการแย่งชิงที่ดิน การแย่งชิงทรัพยากรน้ำ สาเหตุนั้น คงเป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เข้าไปแก้ไขปัญหา หรือไม่มีความเป็นกลาง จึงทำให้กลุ่มนายทุนนั้นได้ใจกล้าที่จะเข้าไปกระทำการที่อุกอาจอย่างไรก็ได้

โดยเฉพาะประเด็นกรณีพระสุพจน์ถูกลอบฆ่านั้น มีความคิดเห็นว่า อาจจะเป็นการข่มขวัญ ข่มขู่ เพื่อให้เจ้าของพื้นที่จริงได้ถอยออกไป ซึ่งพระสุพจน์ได้กลายเป็นแพะที่รับกรรมและเชื่อว่าคงจะมีแพะรายต่อไปอีก

"ดังนั้น แนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ถ้าหากจะขอให้พวกนายทุนลดความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้นั้น คงเป็นไปได้ยาก แต่ที่ทำได้คือ ข้าราชการในพื้นที่จะต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเทศบาล อบต. และส่วนปกครองระดับอำเภอ เพราะเมื่อเกิดปัญหาทุกครั้ง ก็ไม่เห็นมีใครเข้ามารับผิดชอบ หากรัฐไม่เข้ามาเร่งดำเนินการแก้ไข ไม่ว่าสุดท้ายก็จะต้องมีปัญหาเช่นนี้" พระอธิการเอนก กล่าว

ด้านนายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชในพระราชินูปถัมภ์ เขตภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังพยายามชี้ประเด็นการสังหารพระสุพจน์ นั้นมาจากความขัดแย้งเรื่องไปทะเลาะกับคนตัดไม้ไผ่เพียง 2 ลำ จนเกิดการฆ่ากันนั้น ดูแล้วไม่มีน้ำหนัก ไม่เป็นเหตุเป็นผลเท่าใด

แต่ปมขัดแย้งที่มองเห็นเด่นชัดก็คือ มีกลุ่มนายทุนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำที่อยู่ติดออกไปจากสำนักปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม โดยนายทุนกลุ่มดังกล่าวได้มีการว่าจ้างนักเลงท้องถิ่นเข้าไปใช้อำนาจอิทธิพล ทำการบุกรุกโดยมีการจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นผู้ถางป่าเพื่อทำกิจการสวนส้ม

"แต่เนื่องจากสำนักปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น เป็นอุปสรรคต่อการทำสวนส้ม จึงมีความพยายามที่จะผลักดันให้ออกไปจากพื้นที่ให้ได้ จนในที่สุด พระสุพจน์ จึงได้ตกเป็นเหยื่อสังเวยในครั้งนี้ ซึ่งเป้าหมายจริงๆ ของนายทุนนั้นคือ สำนักปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม ดังนั้น หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปตรวจสอบดูให้ชัดเจน ก่อนจะสรุปคดี" นายนิคม กล่าว

นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด กองเลขาฯ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายประชาชนภาค
เหนือกล่าวว่า เท่าที่ได้ลงไปดูพื้นที่ที่เกิดเหตุแล้วเชื่อว่า สังคมไทยเมื่อมีปัญหาความขัดแย้ง ก็ไม่น่าจะถึงขั้นมีการฆ่าพระ อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่นยังมีการพยายามเบี่ยงเบนประเด็นระหว่างสงฆ์กระแสหลักกับสงฆ์สายปฏิบัติธรรมให้เป็นการขัดแย้ง ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องถึงกับใช้ความรุนแรงขนาดนั้น

"ตั้งแต่มีรัฐบาลทักษิณ1 จนถึงรัฐบาลทักษิณ 2 ในขณะนี้ มีแกนนำชาวบ้านที่ถูกลอบสังหารไปแล้ว 19 ศพ แต่รัฐยังไม่เคยหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้เลย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารผู้นำชาวบ้าน ผู้นำนักกิจกรรม มีแต่การจับพวกปลาซิวปลาสร้อยมาลงโทษเท่านั้น ดังนั้น จึงขอให้รัฐเร่งคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญนี้โดยเร็ว ซึ่งเป็นพื้นที่ของบ้านเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี" กองเลขาฯ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กล่าว

องอาจ เดชา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net