Skip to main content
sharethis

ภาพเมือง เฮบเด็น บริทจ์
ภาพจากhttp://www.hebdenbridge.co.uk/
----------------------------------------------------------

ในประเทศไทยถึงแม้ว่า จะมีการรับรู้กันมากขึ้นในเรื่องเพศวิถีว่า โลกนี้ไม่ได้มีแค่หญิงรักชาย ชายรักหญิง กระนั้น การเป็นคนรักเพศเดียวกันก็ยังไม่วายถูกจับตาว่านี่เป็นพวกผิดปกติ และเมื่อไม่กี่วันที่บ้านเราได้มีการประชุมนานาชาติของกลุ่มความหลากหลายทางเพศในเอเชีย เป็นการเข้ามาแลกเปลี่ยนสนทนากันในประเด็นสิทธิ์ของที่มีเพศวิถีที่แตกต่างจากที่สังคมเคยกำหนด ว่า ชายกับหญิง หญิงกับชายเท่านั้น โดยหวังว่าจะทำให้คนได้เข้าใจในเรื่องนี้กันมากขึ้น คนเหล่านี้ก็จะได้อยู่ในสังคมอย่างเท่าเทียมและปกติสุขขึ้น

แต่ว่าขณะนี้ บรรดาหญิงรักหญิงหรือเลสเบี้ยนในแดนผู้ดี นอกจากเขาจะไม่ต้องปิดตัวแล้ว พวกเขาก็เริ่มไม่ต้องทนอยู่เป็นชนกลุ่มน้อยในเมืองนั้นเมืองนี้และถูกสายตาทางประเพณีโบราณคอยจับจ้อง หรือว่าจำจะต้องใช้ชีวิตอยู่เฉพาะในเมืองใหญ่ที่คนรับได้ถึงความหลากหลายเหล่านี้ เพราะขณะนี้เลสเบี้ยนทั้งหลายต่างๆกำลังมุ่งหน้าไปตั้งรกรากกันอยู่ที่ เมือง เฮบเด็น บริดจ์ จนแทบสถาปนาเมืองนี้ว่าเป็น " เมืองหลวงของเลสเบี้ยนกันไปแล้ว"

เฮ็บเด้น บริดจ์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบทอยู่ในหุบเขาในยอรค์เชียร์ เดล (เขตยอร์คเชียร์ เหนือ ของอังกฤษ) กลายเป็นเมืองที่เป็นผู้นำในการเสนอให้เห็นถึงใช้ชีวิตของคนรักเพศเดียวกันที่อยู่ร่วมกันในเมืองเล็กๆแห่งนี้

ซาร่าห์ คอร์ทนีย์ เป็นอีกคนหนึ่งที่มองหาที่อยู่สักแห่งหนึ่งที่จะเลี้ยงลูกของเธอนอกเมืองใหญ่ ที่ยินดีต้อนรับ และรู้สึกว่านี่คือทางเลือกที่เป็นธรรมชาติ

" เราไม่ได้ต้องการจะย้ายไปที่ไหนสักแห่งที่มีเฉพาะเลสเบี้ยนกับลูกๆ เท่านั้น" เธอกล่าว " และมันไม่ใช่ประเด็นนี้ที่เราต้องไปอยู่ที่นั่น" เธอหมายถึงการเปิดเผยเรื่องเพศวิถีของเธอ

สำหรับซาร่าห์นั้น เมื่อสีปีที่แล้ว เธอกับคู่ได้เปลี่ยนจากการใช้ชีวิตที่มีแสงสีในเมืองแห่งลอนดอนไปสู่เมืองเล็กๆย่างเฮ็บเด็น บริดจ์ เมืองที่ห่างไกลจาก คลับ และบาร์ในเมืองหลวงที่มีเป็นศูนย์กลางของคนรักเพศเพียวกันในย่าน ถนน โอลด์ คอมพ์ตัน

" ที่นี่เป็นเมืองที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับเด็กและผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นคนรักเพศเดียวกัน หรือ คนทั่วๆไป" ซาร่าห์กล่าวไปพร้อมๆกับที่กำลังเตรียมอาหารมังสวิรัติอยู่ในบาร์คนรักเพศเดียวกันใน เฮบเด็น บริดจ์

จากการศึกษาทางวิชาการและตัวเลขสำมะโนประชากร เปิดเผยว่า เมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 5,000 คน ที่มีสัดส่วนของประชากรที่เป็นเลสเบี้ยนมากกว่าที่อื่นๆในอังกฤษ บางเว็บไซด์ถึงกับบอกว่าตัวเลขเลสเบี้ยนที่นี่มีมากผู้หญิงทั่วไปถึง 6 ต่อ หนึ่ง ทีเดียว แม้ว่าคนที่อยู่ที่นั่นจะหัวเราะกับตัวเลขที่ถูกนำมาเสนอดังกล่าว

เมืองเฮบเด็น บริดจ์นั้นเคยเป็นที่พักผ่อนของพวกฮิปปี้ตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ความที่เป็นกลุ่มฝ่ายซ้ายและมีชื่อเสียงทางด้านศิลปะก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำเลสเบี้ยนหลายคนได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่

แม้กระทั่งวันนี้ เมืองเฮบเด็น บริทจ์ซึ่งห่างจากแมนเชสเตอร์เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็ยังมีให้ความรู้สึกแบบทางเลือก ด้วยร้านอาหารที่เป็นออร์กานิค มังสวิรัติ และเพื่อสุขภาพ การทำธุรกิจที่นี่ก็เต็มไปด้วยกิจการที่ดำเนินการโดย
เลสเบียน ตั้งแต่ คอฟฟี่ช็อป บาร์เครื่องดื่ม ไปจนถึงการค้าใหญ่ๆอย่างรับเดินท่อประปา และการสร้างบ้าน

ในสหรัฐอเมริกา เคยมีปรากฏการณ์ที่เกย์และเลสเบี้ยนย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองต่าง อย่างเช่น โปรวินซ์เทาน์ เมสสาซูเซ็ต และ ปาล์ม สปริง แคลิฟอร์เนีย ส่วนการย้ายออกไปอยู่ในชนบทของเลสเบี้ยนในอังกฤษนั้นบุกเบิกขึ้นโดย ไวลด์ ลาเวนเดอร์ สหกรณ์ที่อยู่อาศัยที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 โดยกลุ่มชายรักเพศเดียวกัน ในพื้นที่ที่แม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลจากลีดส์เลย ( 40 กิโลเมตรจากทางตะวันออกของเฮบเด็น บริดจ์)

" ผู้หญิงหลายๆคนมาจากลอนดอนเพื่อซื้อที่เล็กๆตรงไหล่เขา" โจ ทอตัน กล่าง เธอกับคู่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองที่ใกล้ๆกันชื่อ ท็อดมอนเด้นเมื่อ 25ปีที่แล้วและเปิดธุรกิจคาเฟ่และบาร์ "เป็นมิตรและตรงไปตรงมา"

"มันเป็นจังหวะก้าวที่แตกต่างของชีวิต" เธอกล่าว

วันนี้ที่กระดานเตือนความจำของ เฮ้บเด็น บริดจ์ คาเฟ่ ได้เชิญชวนร่วมงานฉลองของคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งเข้าใจว่าอังกฤษน่าจะมีการผ่านกฎหมายดังกล่าวภายในปลายปีนี้ ในขณะที่ธงสีรุ้งของเหล่าคนรักเพศเดียวกันก็โบกสะบัดอยู่หน้าร้านต่างๆที่ดำเนินกิจการโดยคนรักเพศเดียวกัน โฆษณาภาพยนตร์เลสเบี้ยนก็ปรากฏอยู่ในร้านต่างๆในท้องถิ่น

ที่นี่มีแม้กระทั่งสมาคมดูนก และ กลุ่มไต่เขาชาวเลสเบี้ยน

นี่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มากสำหรับเมืองที่เคยถูกละเลยมานานนับสิบปีเนื่องจากคนต้องตกงานจากการที่เศรษฐกิจของเอเชียตกต่ำ

ถึงวันนี้ไม่มีอีกแล้วภาพของโรงงานร้างหน้าต่างพังๆ หรือบ้านริมเชิงเขาที่ดูน่ากลัว เนื่องจากได้เปลี่ยนไปเป็นอพาร์ตเม้นต์เก๋ๆ มีปล่องไฟ และครัวสไตล์เมดิเตอเรเนียน

ถึงตอนนี้เมืองนี้ได้เริ่มดึงดูดแม้กระทั่งชายรักชายที่โดยปกติแล้วมักจะสนใจที่จะอยู่เมืองใหญ่มากกว่าให้มาที่นี่มากขึ้นแล้ว

"คุณจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนกับการที่อยู่ในเมืองเล็กๆเมืองอื่นๆ" คริส เฟอร์มิงเกอร์ อายุ 34 กล่าว " ที่นี่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้นในขณะนี้เมื่อมีชายรักชายย้ายเข้ามามากขึ้น"

กระนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามนั้นก็จะขาดคนวิจารณ์ไปเสียไม่ได้
" เราก็ยังคงมาที่ผับนี้อยู่เหมือนปกติ จะมาให้เราย้ายไปเพราะเลสเบี้ยนคงไม่ได้หรอก" จูดิธ อินแมน อายุ 52 กล่าว "ฉันรู้สึกแย่ และไม่ค่อยสะดวกใจนัก"

แต่ว่าก็มีคนนอกชุมชนคนรักเพศเดียวกันอีกมากที่ยินดีต้อนรับคนเหล่านี้

" พวกเขาช่วยนำงานมาในพื้นที่ที่กำลังๆจะตาย" กาเร็ธ ริชาร์ด ซึ่งจำได้ดีถึงพื้นที่แห่งนี้ก่อนที่กลุ่มเลสเบี้ยนจะไหลทะลักเข้ามาอยู่กัน

"ทุกๆคนที่นี่ต่างก็ดำเนินชีวิตของตนเองไป มันเป็นสถานที่ทุกคนต่างยอมรับซึ่งกันและกัน"

ข้อมูลจาก รอยเตอร์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net