กรุงเทพฯ- 5 ส.ค.48 "สมานฉันท์ ต้องยอมรับความต่างทางวัฒนธรรม ว่าคนแต่ละพื้นที่มีความต่างกัน การใช้ทรัพยากรต่างกัน การสร้างความสมานฉันท์ต้องทำให้คนไทยเข้าใจว่า ชาติ คือ อะไร และการใช้ชีวิตต้องยอมรับวิถีทางที่ทางกันที่เราเลือก ไม่ใช่ มึง เลือก" ศ.
|
ศ.นิธิ กล่าวว่า ปัจจุบันสังคม ไทยยังมีศัตรูของการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมอยู่ จึงทำให้สร้างความสมานฉันท์ไม่ได้ คือ มีอุดมคติที่ยกย่องความเป็นชาติ แบบเชยๆ ที่สถาปนามาจากที่สูงตลอดเวลา โดยที่ไม่มีการขับเคลื่อนจากข้างล่าง จนกลายเป็นการสร้าง Uniformity ไม่ใช่การสร้าง Unity ทำให้รองรับความต่างทางวัฒนธรรมไม่ได้
ศ.นิธิ ได้กล่าวถึงศัตรูทางวัฒนธรรมอีกประการหนึ่ง ว่า การระดมทรัพยากรมารวมศูนย์เพื่อรับใช้วิธีการใช้ทรัพยากรแบบเดียว โดยเพื่อการส่งออกทางอุตสาหกรรม แล้วเรียกว่า การพัฒนานั้น ก็เป็นปัญหา เช่นการทำเขื่อนปากมูล ทำโรงไฟฟ้า แล้วทำลายวิถีชีวิตของชาวปากหมื่นเป็นหมื่นคนซึ่งเคยจับปลา หาเงินได้วันละหลายร้อยบาท สุดท้ายก็ต้องกลายมาเป็นคนเก็บขยะในกรุงเทพฯ ได้เงินวันละ 50 บาท
น.พ.ประเวศ วะสี รองประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าวถึงเรื่องความหลากหลายว่า เป็นธรรมชาติของทุกสิ่งในโลก หากเข้าใจก็จะเกิดสันติสุข แต่หากไม่เข้าใจก็จะเกิดปัญหา
อย่างไรก็ดีทิศทางของทุนนิยมในปัจจุบันกำลังผลักดันให้โลกกลายเป็นวัฒนธรรมเดียวกัน ซึ่ง น.พ.ประเวศ มองว่า อันตรายมาก
"ดังนั้นคุณต้องเข้าใจในความหลากหลายในสังคม หากไม่เข้าใจ การแก้ปัญหาก็เหมือนตาบอดคลำตาช้าง เข้าใจเป็นส่วนๆ การเอาเศรษฐกิจมาเป็นตัวตั้งเป็นการทำลายดุลยภาพดั้งเดิม" น.พ.ประเวศกล่าว
ทั้งนี้ รองประธาน กอส.กล่าวว่า ในเรื่องวัฒนธรรมนั้นคนท้องถิ่นคือผู้ที่จะดูแลได้ดีที่สุด โดยที่เงินไม่ใช่ทางออก แต่กลับจะนำไปสู่ความหายนะ เพราะเป็นการให้ประโยชน์แก่คนส่วนน้อย ซึ่งขณะนี้ไทยก็เริ่มอยู่ในแนวคิดเรื่องเงิน เรื่องอำนาจ จนจะนำมาสู่เรื่องตัวใครตัวมัน ความขัดแย้ง และการเอาตัวรอดต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- รัฐเหลวแก้ไฟใต้เพราะไม่เข้าใจยุทธศาสตร์"ความหลากหลาย"
- หมอประเวศ ขอรองนายกฯ แบบ "จาตุรนต์ "ร่วมงาน กอส.