ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-13 ส.ค.48       ภาคเหนือถูกดีเปรสชั่นกระหน่ำหนัก  ทำให้กระแสน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด  โดยเฉพาะ อ.เชียงดาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จมทั้งเมือง  ให้ชาวต่างชาติที่อยู่ภายในเกสเฮ้าส์ถูกกระแสน้ำพัดหายไปกว่า 10 ราย  ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งระดมค้นหากันจ้าละหวั่น

ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน  ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากนายวินัย  ทรัพย์ขจรเดช อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(สจ.)เขต อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และเจ้าของบลู สกาย์ เกสเฮ้าส์ว่า  หลังเกิดพายุฝนตกหนักตั้งแต่ค่ำของวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมาจนถึงรุ่งเช้า ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดท่วมเมืองปายจมทั้งเมือง  จนทำให้สิ่งของบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก

"ล่าสุด นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 10 กว่าคน ที่พักอยู่ในเกสเฮ้าส์ ได้ถูกน้ำป่าพัดจมหายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ระดมจัดชุดกู้ภัยเข้าค้นหากันอยู่  ยังไม่รู้ชะตากรรมของนัก

ท่องเที่ยวกลุ่มนั้น" นายวินัย  กล่าว

ด้านเหตุการณ์ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่  ได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมไหลหลากพัดเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่  จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก  ถนนทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง บริเวณบ้านแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว  ถูกตัดขาดปิดเส้นทางเดินกันชั่วคราว  เนื่องจากกระแสน้ำจากลำน้ำปิงเอ่อล้นขึ้นมาท่วมท้องถนนอย่างเชี่ยวกราก

นางนี โปธา ราษฎรบ้านแม่ป๋าม ต.ปิงโค้ง  อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า  ในหมู่บ้านแม่ป๋ามได้ถูกน้ำป่าพัดท่วมบ้านเรือน  ไร่สวนที่นาพังเสียหายเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะวัว ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของตน  ได้ถูกกระแสน้ำพลัดหายไป 2 ตัว 

ในขณะที่ อ.แม่แตง  จ.เชียงใหม่   รายงานจากนายเอกชัย  แดนพงพี  นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ ว่า  ตอนนี้  มีกลุ่มนักศึกษาคณะดุริยางศิลป์  มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ ประมาณ 30 คน ที่ไปจัดกิจกรรมค่ายนอกสถานที่ บริเวณโรงแรมรอยัลปิง รีสอร์ท  อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ซึ่งอยู่กับลำน้ำแม่ปิงและขณะนี้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่ง  ยังติดอยู่อีกฟากฝั่งด้านทิศตะวันออก  ไม่สามารถติดต่อและข้ามฝั่งมาได้  เนื่องจากกระแสน้ำนั้นไหลเชี่ยวแรงมาก