ประชาไท17 ส.ค. 48 ศาลอาญาชั้นต้น ตัดสินลดโทษชาวบ้านบ่อนอกในฐานะที่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรชาติ โดยยกฟ้องและรอลงอาญา 2 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าฯ โดยมีชาวบ้านบ่อนอก-บ้านกรูด-จะนะ กว่า 500 คน เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา |
หลังจากมีการพิจารณาคดีมาเป็นเวลา 3 ปี วันนี้ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา คดีโรงไฟฟ้าบ่อนอกกล่าวหาว่าชาวบ้านบ่อนอกทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่บริษัทกัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น โดยจำเลยทั้ง 5 คน ประกอบด้วย 1. นายเจริญ วัดอักษร 2.นางวิไล สัตย์ซื่อ 3.นางลัดดา สิงห์เล็ก 4.นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย และ 5.นายชัยยศ แก่นทอง
ทั้งนี้ ชาวบ้านบ่อนอก,บ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา จาก อ.จะนะ ประมาณ 500 คน ได้ร่วมเดินขบวนเรียกร้องความยุติธรรมในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายแกนนำชาวบ้านใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะตกลงกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นาย
สำหรับจำเลยที่ 2 นางวิไล ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่พยานฝ่ายโจทย์ไม่มีใครเบิกความว่าเห็นว่าทำร้าย เพียงอยู่ในเหตุการณ์ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง
ส่วนจำเลยที่ 3 นางลัดดาและจำเลยที่ 4 นางกรณ์อุมา ในข้อหาทำร้ายร่างกายและข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยศาลพิจารณาแล้ว ศาลตัดสินยกฟ้องในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานโจทย์ยืนยัน แต่จำเลยทั้ง 2 มีหลักฐานว่าทำร้ายร่างกายให้เกิดความสาหัสจริง
ขณะที่ จำเลยที่ 5 นายชัยยศ ถูกกล่าวหาในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังและทำให้ปราศจากเสรีภาพทางร่างกายและอีกข้อหาหนึ่งคือทำร้ายร่างกาย จากการนำสอบของโจทย์บอกว่าจำเลยบังคับให้ลงเรือและขับเรือขึ้นฝั่งจริง แต่ไม่มีพยานโจทย์เห็นว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย ศาลจึงตัดสินยกฟ้องในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนการบังคับเรือนำโจทย์ขึ้นฝั่งนั้นเป็นความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว
ศาลจึงตัดสินลงโทษจำเลยที่ 3และ4 ให้รับโทษจำคุก 2 ปี สำหรับจำเลยที่ 5 ให้รับโทษจำคุก 2 ปีและปรับ 4,000 บาท แต่จำเลยที่ 5 ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อศาลในการนำสืบให้ยอมรับจึงยกโทษให้ 1 ใน 4 เหลือโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 3,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าจำเลยทั้ง 3 คนไม่เคยได้รับโทษมาก่อน และความผิดดังกล่าวเป็นการแสดง อกถึงความหวงแหนธรรมชาติซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญของชาติที่จะต้องช่วยกันดูแล แต่ว่าได้ฝ่าฝืนกฎหมาย จึงให้โอกาสจำเลยประพฤติปฏิบัติตนเสียใหม่ ศาลจึงมีคำตัดสินให้รอลงอาญากำหนด 2 ปี และคุมความประพฤติในกำหนดดังกล่าวโดยต้องรายงานต่อศาลทุก 3 เดือน และต้องทำงานบริการสังคม ตามที่จำเลยทั้ง 3 และพนักงานคุมความประพฤติเห็นชอบไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)