เช้าวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะได้ออกตรวจเยี่ยมประชาชนพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเทพวิวัฒน์ 1 อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ได้เดินทักทายประชาชน พ่อค้าแม่ค้าที่มาจับจ่ายซื้อของหรือนำสินค้ามาขายอยู่เป็นเวลานาน และยังช่วยซื้อสินค้าของพ่อค้าและแม่ค้าแทบทุกร้าน เพื่อนำไปเป็นอาหารกลางวันที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานีด้วย |
สำหรับวันดังกล่าวตรงกับวันสารทจีน ทำให้มีคนไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อของจำนวนมากกว่าทุกวัน โดยประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้องให้หางานทำและเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะพยายามลงพื้นที่เดือนละ 2 ครั้ง หรือให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงมาแทน
นอกจากนี้มี น.ส.สุวนันท์ คงยิ่ง ดารานักแสดง ร่วมเดินทางมาด้วย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าตลาดนัดสินค้าราคาพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลในทุกวันศุกร์
ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี เพื่อหารือกับภาคเอกชนและนักธุรกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายทนง พิทยะ รัฐมน
ตรีว่าการกระทรวงการคลัง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯซึ่งปฏิบัติราชการแทนนายรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ทั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดการหารือครั้งนี้ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์
ผู้เข้าร่วมประชุมมีการเสนอให้ช่วยเหลือด้านการประมงที่ประสบปัญหาต้นทุนเรื่องน้ำมันแพง และการขาดแคลนแรงงาน ปัญหาในเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยวและการลงทุนที่กำลังซบเซาอย่างหนัก
ขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแก้ ไขด้วย เช่น โครงการปลูกพืชปลอดสารพิษ การประกันราคาลองกองระยะยาว การสนับสนุนสินค้าโอท็อปไปจำหน่ายที่ประเทศตะวันออกกลาง และสนับสนุนให้สนามบินนราธิวาสนำประชาชนไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ยังได้รับปากว่า จะช่วยซื้อลองกอง 30,000 กว่าตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ต.ท.ทักษิณ รับปากจะให้การช่วยเหลือโดยทันทีโดยเรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้เลยก็สั่งการให้ช่วยเหลือ ส่วนเรื่องไหนที่ต้องหารือในรายละเอียดก็ให้ประสานกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในภายหลัง
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เรียกร้องให้นักธุรกิจและภาคเอกชนผนึกกำลังกันสร้างความเชื่อมั่นกันภายในพื้นที่ก่อน เพื่อดึงดูดให้การลงทุนจากภายนอกเข้ามาภายหลัง
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลงร่วมกันระหว่างนักธุรกิจกับภาครัฐ 3 ข้อ คือ 1.การแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการโรงโม่หิน และกำหนดราคาหินให้เป็นธรรมมากขึ้น ระหว่างผู้ประกอบการโรงโม่หินกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ 2.การลงนามในสัญญาซื้อขาย กิจการโรงงานปริ๊นเซส นราธิวาส มูลค่า 70 ล้านบาท ของบริษัทในเครืออิมพีเรียล และ 3.การลงนามโครงการราษฎร์-รัฐร่วมใจสานน้ำพระทัยสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมโยงผลผลิตลองกองเข้าสู่ตลาดผู้บริโภค โดยมีหน่วยงานภาครัฐร่วมลงนาม เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตลองกองอย่างเป็นรูปธรรม
นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี เปิดเผยหลังจากได้ร่วมหารือนอกรอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ภาคธุรกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ได้แก่ การขอยืดเวลาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1.5% ต่อปี ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ให้การช่วยเหลือภาคธุรกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ ก.พ. 2548 ถึง ก.พ.2549 ให้ขยายออกไปอีกเป็นเวลา 3 ปี และให้ครอบคลุมไปถึงลูกค้าของธนาคารอิสลามด้วย นอกจากนี้ก็ยังขอให้ลดภาษีต่างๆ เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้แก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นายอนุศาสน์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอให้กำหนดเป็นมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวในลักษณะ 6 บวก3 คือ เมื่อรัฐบาลให้การช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว ใน 6 จังหวัดอันดามันจากเหตุการณ์สึนามิอย่างไร ก็ให้ช่วยเหลือธุรกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ทั้งหมดนายกรัฐมนตรีรับที่จะนำไปแก้ปัญหาแล้ว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)