ผู้สื่อข่าวประจำศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 48 ชาวบ้านละหาร ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส กว่า 400 คนได้เก็บตัวอยู่ภายในหมู่บ้านและไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งบุคคลภายนอกเข้าไปภายในหมู่บ้าน เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย หลังเกิดนายสะตอปา ยูโซ๊ะ โต๊ะอิหม่าม มัสยิดบ้านละหาร ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่หน้าบ้านพักในมัสยิดบ้านละหารเมื่อคืนวันที่ 30 สิงหาคม 2548

ก่อนหน้านี้ในคืนเกิดเหตุชาวบ้านได้รวมตัวกันตัดต้นไม้ และรวมกลุ่มกันปิดกั้นขวางถนนทางเข้าหมู่บ้านไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปชันสูตรพลิกศพ และสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย เนื่องจากปักใจเชื่อว่านายสะตอปาเสีย ชีวิตจากฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ก็ปักหลังตรึงพื้นที่ทางเข้าหมู่บ้านและกำลังเจรจากับแกนนำชาวบ้านเพื่อขอเข้าไปตรวจค้นในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

จากการสำรวจพื้นที่ของผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยพบว่าตลอดเส้นทางถนนสายระแงะ-สุไหงปาดี ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้านละหาร มีรถหุ้มเกราะ และรถลาด ตระเวนของทหารวิ่งตรวจตราตลอดเส้นทางอย่างต่อเนื่องและกลุ่มชาวบ้านละหาร ยังคงปิดกั้นทางเข้าหมู่บ้านไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว ตลอดจนคนแปลกหน้าอื่นๆ เข้าไปภายในหมู่บ้านเนื่องจากยังไม่วางใจในสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวอิศราฯได้เข้าไปยังหมู่บ้านปะฮงกือปะ ตำบลปะลุรู พบกับญาติของนายสะตอปา ยูโซ๊ะ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ฟังว่าหลังจากนายสะตอปา ถูกคนร้ายยิงเพื่อนบ้านได้เข้าไปช่วยนายสะตอปา ได้สั่งเสียก่อนเสียชีวิตว่าอย่าให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูศพเพราะมั่นใจว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

"มีการประกาศไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ได้ทราบข่าวก็วิ่งกันออกมาตัดต้นไม้ขวางถนนทางเข้าหมู่บ้านทุก คนรวมทั้งเด็กเล็ก ผู้หญิง ออกมายืนเป็นกำแพงมนุษย์ขวางถนนทางเข้าหมู่บ้านทั้งสามเส้นทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในวันนั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่ระดมกำลังกันมากว่า 40 คันรถ กระจายทั่วพื้นที่ไปหมด จะบุกเข้ามาตรวจค้นในหมู่บ้านให้ได้ เพราะคิดว่าคนในหมู่บ้านคือ แนวร่วม ผู้ก่อความไม่สงบ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านขวางอยู่และไม่ยอมให้เข้าก็วางกำลังรักษาการณ์อยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเช่นกัน" ญาติของนายสะตอปากล่าว

พ.อ.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 34 (ผบ.ฉก.34) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความเข้าใจผิด ที่ชาวบ้านเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อมีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบแล้วเรื่องก็ยุติลงด้วยดี ทราบจาก ผู้ใต้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวว่า ชาวบ้านยอมให้ทหารเข้าไปภายในหมู่บ้านได้แล้ว ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นเพราะมีผู้เสียประโยชน์ไปกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ นอกจากชาวบ้านละหารแล้ว ก็ไปบอกต่อไปยังหมู่บ้านอื่นๆ นัดให้มารวมตัวกันด้วย