ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-5 ก.ย.48          ชาวแม่อาย มั่นใจชนะคดี  เตรียมเหมารถบัสเข้าเมืองเชียงใหม่  รอลุ้นฟังคำตัดสินชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลปกครอง จ.เชียงใหม่  หลังจากชาวบ้านยื่นฟ้องกรมการปกครอง และนายอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ ในความผิดฐานเป็นหน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐออกประกาศคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ด้วยการถอดสัญชาติชาวแม่อายทั้ง 1,243 คน   ในขณะที่ตัวแทนอำเภอแม่อายเผยยอมรับคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด  ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม

หลังจากเมื่อวันที่  23 ส.ค.ที่ผ่านมา   ที่ศาลปกครองสูงสุด  นายบุญอนันต์ วรรณพานิชย์ ได้แถลงความเห็นส่วนตัวต่อองค์คณะโดยมีความเห็นให้กลับคำพิพากษาศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเห็นว่าประกาศของอำเภอแม่อาย ลงวันที่ 5 ก.พ.2545 ที่ให้เพิกถอนชื่อชาวบ้าน 1,243 คน ออกจากทะเบียนราษฎรนั้น เป็นประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยไม่ขัดต่อมาตรา 30 วรรคแรกของ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539  แต่ถือเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร ที่ไม่กระทบต่อสิทธิที่ก่อตั้งตามกฎหมายสัญชาติ และไม่เป็นการสร้างภาระเพิ่มขึ้นให้กับศาลปกครองสูงสุด จึงควรมีคำพิพากษายกฟ้องกรมการปกครองกับพวกรวม 3 คน อย่างไรก็ตามความเห็นส่วนตัวดังกล่าวไม่ผลผูกพันต่อองค์คณะ ซึ่งหลังจากนี้ศาลปกครองสูงสุดจะนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ต่อไปนั้น

ซึ่งทำให้ชาวบ้านกลุ่มที่ถูกเพิกถอนสัญชาติไทย  ที่นั่งปฏิบัติธรรมภาวนา  รอลุ้นผลพิจารณาคดี  อยู่ที่วัดภาวนานิมิต หมู่ที่ 14 บ้านร่มไทย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่างกอดคอร่ำไห้ด้วยความเสียใจ  เนื่องจากชาวบ้านทั้งหมดต่างมีความหวังว่า  ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณายืนตามศาลปกครองเชียงใหม่

ล่าสุด  ชาวบ้านแม่อายที่ได้รับผลกระทบ ถูกกรมการปกครองและเจ้าหน้าที่รัฐ  ได้เพิกถอนสัญชาติไทย จำหน่ายออกจากทะเบียนบ้าน ทั้ง 1,243 คน ได้นัดประชุมหารือกัน  พร้อมระดมทุนเรี่ยไรเงิน เป็นค่าเหมารถบัส  เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด  ที่ศาลปกครอง จ.เชียงใหม่  ในวันที่ 8 ก.ย.นี้
       
นายคำ  โพธิ  ชาวบ้านบ้านใหม่หมอกจ๋าม  ม.8  ต.ท่าตอน  อ.แม่อาย  จ.เชียงใหม่  กล่าวว่า  ตอนนี้ชาวบ้านกำลังรอฟังคำตัดสินจากศาลปกครองสูงสุด  ในวันที่ 8 ก.ย.นี้  ซึ่งทุกคนมีความมั่นใจว่าชาวบ้านจะชนะคดี 80%  เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า  ตัวเองเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซนต์และหลังจากได้ศึกษารายละเอียดของตัวบทกฎหมาย อีกทั้งได้ปรึกษาหารือกับทีมสภาทนายความแห่งประเทศไทย และอีกหลายๆ  หน่วยงาน  ทุกฝ่ายก็บอกกับตนว่า  มีแนวโน้มที่จะศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินให้ชาวบ้านชนะ

"ตอนนี้  ยอมรับว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มท้อและอ่อนล้ากันมาก  เพราะได้ต่อสู้เรียกร้องกันมานาน  ซึ่งตนและแกนนำได้พยายามกระตุ้นให้ทุกคนฮึดสู้กันต่อ  โดยได้ชี้แจงว่าทุกคนจะต้องสัญชาติไทยคืนมา  ซึ่งขณะนี้คนทั่วประเทศ  แม้กระทั่งต่างประเทศก็ให้ความสนใจ  และยังมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่" นายคำ  กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายอุทัย  สอนจีน    ปลัดอำเภอแม่อาย  จ.เชียงใหม่  กล่าวว่า  ตอนนี้ทางอำเภอคงไม่มีความเห็นอะไรมาก  เพราะขั้นตอนกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล  ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัย  คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด  ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม  หากชาวบ้านชนะ  ก็จะดำเนินการนำรายชื่อเข้าบัญชีทะเบียนบ้านเดิม  หากชาวบ้านแพ้  ทางอำเภอก็ต้องหาทางออกเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านกันต่อไป  ทั้งในกรณีที่ชาวบ้านรายใดที่มีพยานหลักฐานชัดเจน  ก็สามารถเข้ายื่นคำร้องใหม่ได้  หรือไม่จะยื่นคำร้องขอสัญชาติไทย  โดยผ่านกระบวนการ ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ในมาตรา 7 ทวิ ก็ได้

ในขณะที่ นายประเสริฐ  กายทวน  แกนนำชาวบ้านแม่อายที่ถูกถอดสัญชาติ  กล่าวว่า  การพูดของปลัดอำเภอแม่อาย  ถือว่าเป็นยาหอมที่มอบให้แก่ชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง  ดังนั้น  ปัญหานี้  เชื่อว่ายังไม่สิ้นสุดง่ายๆ  อาจจะต้องมีแม่อายสะอื้น ภาคสี่ต่อไปอีก  ซึ่งไม่ว่าแพ้หรือชนะ  เราจะต้องร่วมมือร่วมใจ  เพื่อวางแผนต่อสู้เรียกร้องกันต่อไป

"ขณะนี้  กำลังมีการประชุมแกนนำเพื่อร่วมกันหาทางออกกันต่อไป  เพราะการถูกถอดสัญชาติไทย  ได้ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบกันหลายๆ  ด้าน  ไม่ว่าในเรื่องการทำงาน  การศึกษา  การรักษาพยาบาล  หรือสิทธิที่ควรได้รับทุกอย่างถูกตัดสิทธิไปหมด  แต่ถึงแม้ว่าชาวบ้านจะโศกเศร้าเสียใจต่อคำแถลงของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 23  ส.ค.ที่ผ่านมา  ซึ่งเราจะต้องไม่เสียขวัญกำลังใจ  และต้องรอผลการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งว่า  ชาวบ้านจะชนะหรือแพ้คดี  อย่างไรก็ตาม  เราจะต้องได้สัญชาติไทยคืนมาให้ได้ในชาตินี้" แกนนำชาวบ้านแม่อาย กล่าว