เวลา 13.00 น. วันที่ 14 กันยายน 48 พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ประธานที่ปรึกษากรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะเดินทางไปยังบ้านโต๊ะอิหม่ามสะตอปา ยูโซะ ซึ่งถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 8 บ้านละหาร ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โดยบ้านหลังนี้อยู่หลังมัสยิดบ้านละหาร

พล.อ.หาญ กล่าวภายหลังตรวจสอบวิถีกระสุนบริเวณหน้าบ้านพักว่า อาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะเป็นอาวุธสงคราม และเชื่อว่าจุดที่คนร้ายยืนอยู่ห่างจากผู้ตายไม่เกิน 20 เมตร ส่วนตัวอยากให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกทางหนึ่ง

ขณะที่คณะของพล.อ.หาญ เดินทางออกจากพื้นที่ถึงบริเวณปากทางเข้า - ออกมัสยิด มีผู้นำโอ่งน้ำขนาดกลางมาวางไว้ริมถนน แต่ตรวจสอบไม่พบวัตถุต้องสงสัย พร้อมกับปักป้ายริมถนนเป็นภาษาไทยและภาษายาวี ข้อความว่า "ทหารฆ่าโต๊ะอิหม่าม" ด้วย

เมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจรถไฟหาดใหญ่ได้นำธนบัตรสกุลเงินในประเทศตะวันออกกลาง ที่มีผู้พบที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ไปมอบให้กับพ.ต.ต.เตียน ทองสมสี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบพบว่า เป็นธนบัตรสกุลเงินอิหร่าน อัฟกานิสถาน และซาอุดีอาระเบีย ธนบัตรทั้งหมดอยู่ในสภาพเก่า

สำหรับสกุลเงินอิหร่าน แยกเป็น ธนบัตรฉบับละ 10,000 เรียว 36 ใบ, ฉบับละ 5,000 เรียว 3 ใบ, ฉบับละ 100 เรียว 3 ใบ เช็คเงินสดของธนาคารอิหร่าน 2 ใบๆ ละ 5 แสนเรียว รวมมูลค่าทั้งหมด 1,375,300 เรียว ส่วนสกุลเงินซาอุดีอาระเบีย เป็นธนบัตรฉบับละ 5 ริยาด 2 ใบ และสกุลเงินอัฟกานิสถาน เป็นธนบัตรฉบับละ 28 ใบ พร้อมกับซิมการ์ดโทรศัพท์มือถืออีก 1 อัน เอกสารอีกจำนวนหนึ่ง เงินทั้งหมดมีมูลค่าเพียงไม่เกิน 6,000 บาท

ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ภาพของผู้ที่คาดว่าเป็นเจ้าของเงินแล้ว จากกล้องวิดีโอวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ตามมุมต่างๆ ภายในสถานีรถไฟหาดใหญ่ ตั้งแต่เดินอยู่หน้าสถานี เข้ามาซื้อตั๋ว นั่งรอรถอยู่ที่ชานชาลาของสถานี ซึ่งเป็นจุดที่พบเงิน และระหว่างเดินขึ้นรถไฟ เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี แต่งกายด้วยชุดดะวะห์สีขาว สวมหมวกกะปิเยาะห์ของชาวมุสลิม ใบหน้ามีเครา แต่ไม่ได้พกพาสัมภาระใดๆ

เจ้าหน้าที่รถไฟยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนไทย เพราะขณะเข้ามาซื้อตั๋วพูดไทยชัดเจน ลักษณะโดยรวมเหมือนชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาซื้อตั๋วเวลาประมาณ 11.07 น. ของวันที่ 12 กันยายน 2548 เดินทางด้วยรถเร็วขบวนที่ 447 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลายทางสุไหงโก-ลก เวลาประมาณ 14.00 น.

ชายคนดังกล่าวเข้าไปติดต่อซื้อตั๋วระบุจะเดินทางไปกรุงเทพมหานคร แต่กลับขึ้นรถไฟเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่รอรถไฟได้พูดคุยกับคนรู้จัก ที่บริเวณชานชาลาอยู่พักใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการสลับตั๋ว หรือซื้อตั๋วแทนให้กัน ขณะนี้ทางหน่วยงานด้านการข่าว ได้นำภาพชายผู้นี้ ไปตรวจสอบแล้ว

พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับเงินสกุลอิหร่านที่พบในพื้นที่ ยังไม่ปรากฏความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากเงินสกุลดังกล่าว มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนในไทยมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ในทางการข่าวยังคงต้องติดตามกรณีนี้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 12.20 น. วันเดียวกัน ขณะนายปรีชา ลุเอี่ยม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ซอย 1 ถนนกาละปอ ตำบลกะบังจิ๊กอ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี      ขับรถพ่วงข้างกลับบ้านพัก มาถึงบริเวณถนนสายปัตตานี-ยะหริ่ง หมู่ที่ 1 บ้านบือเจาะ ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้าประกบ แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มิลลิเมตรชนิดลูกโม่ ยิงใส่นายปรีชาหลายนัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานีในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุน .38 จำนวน 1 นัด

ต่อมา เวลา 17.20 น. วันเดียวกัน ขณะนายมาดี อาแว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 บ้านศาลาใหม่ หมู่ที่ 4 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วนของกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังขับรถจักรยานยนต์จาสกที่ทำงานในอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส กลับบ้านพัก มาถึงบริเวณถนนภายในหมู่บ้านตันหยิงลิมอ หมู่ที่ 7 ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนพกสั้น ประกบยิงนายมาดีเข้าที่แขนขวา 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด และหน้าท้อง 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์