Skip to main content
sharethis


ประชาไท—27 ก.ย. 2548 การประชุมวุฒิสภาเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ในวันนี้ ที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ 122 ยืนยันดำเนินการเลือก กสช.ต่อไปโดยใช้วิธีประชุมลับ


 


ทั้งนี้นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สว.กรุงเทพมหานคร ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสช.  เปิดเผยกับผู้สื่อข่าววานนี้ ว่าจากการตรวจสอบประวัติผู้สมัครทั้ง 14 คนซึ่งวุฒิสภาต้องคัดเลือกให้เหลือ 7 คนในวันพรุ่งนี้ สามารถจำแนกประเภทของผู้สมัครได้เป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มทหาร กลุ่มผู้มีความใกล้ชิดรัฐบาล และกลุ่มธุรกิจ


 


นอกจากนี้พบว่าบางคนมีประวัติไม่เหมาะสม โดยเป็นตัวแทนของกลุ่มทุนใหญ่ 3 กลุ่มซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนและจะทำให้เจตนารมณ์ในการปฏิรูปสื่อตามรัฐธรรมนูญไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะไปวางแผนแม่บทการจัดสรรคลื่นความถี่และกฎเกณฑ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องซึ่งอาจนำไปสู่การเทคโอเวอร์สื่อได้ในที่สุด


 


นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่นายประมุท สูตะบุตร ผู้สมัคร กสช. ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่า กระบวนการสรรหา กสช. ไม่ชอบและศาลปกครองได้รับเรื่องไว้แล้ว หากศาลมีคำตัดสินว่า กระบวนการสรรหา กสช. ไม่ชอบ ก็จะมีผลคล้ายกรณีของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เนื่องจากตำแหน่ง กสช. เป็นตำแหน่งที่ต้องโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เช่นเดียวกับตำแหน่งผู้ว่า สตง.


        


สำหรับบรรยากาศการประชุมวุฒิสภาวาระเลือก กสช. ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยมีสาระสำคัญคือพิจารณาว่าจะดำเนินการเลือกกสช. ต่อไปหรือไม่


 


ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ทีได้รับการเสนอชื่อเป็น กสช. ได้เสนอต่อที่ประชุมไม่ให้เลือกกรรมการ กสช. แต่ให้ส่งเรื่องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ เหมือนกับกรณีที่วุฒิสภาเคยส่งการเลือก คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กลับไปสรรหาใหม่


 


โดยมีเหตุผล 2 ประการคือ กระบวนการสรรหาไม่ชอบ และเป็นคดีอยู่ในศาลปกครอง ซึ่งหากวุฒิสภามีการเลือกกรรมการ กสช. ไปแล้ว ศาลปกครองมีคำตัดสินในทางตรงกันข้ามก็จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกันกับกรณีผู้ว่า สตง. ได้


 


ทั้งนี้นายมนตรี สินทวิชัย สว. สมุทรสงคราม หนึ่งใน กมธ. ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า กระบวนการสรรหา กสช. ที่ผ่านมานั้นไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีการพิจารณาในคุณสมบัติของผู้สมัครเลย ทั้งที่กฎหมายได้ระบุไว้ชัดเจน แต่คณะกรรมการสรรหากลับมุ่งให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งนายมนตรี กล่าวเปรียบเทียบว่า แม้แต่เด็กอนุบาลอายุ 3-4 ขวบไปสมัครเรียนก็ต้องพิจารณากันที่คุณสมบัติก่อนเป็นอย่างแรก ถ้าคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเช่น อายุไม่ถึงเกณฑ์ โรงเรียนอนุบาลก็ต้องไม่รับ


 


ด้านนายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวกับที่ประชุมว่า เนื่องจากมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจากศาลปกครองว่ากระบวนการสรรหา กสช.ไม่ชอบและศาลปกครองรับพิจารณาแล้วนั้น เกรงว่าหากวุฒิสภาพิจารณาเลือก กสช. จะเป็นการใช้อำนาจซ้ำซ้อนกับศาลปกครอง โดยนายแก้วสรรระบุว่า ที่พูดเช่นนี้มิได้กลัวศาลปกครอง แต่เพราะคดีมีมูล


 


อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของวาระพิจารณาว่าจะเลือก กสช. หรือไม่ นายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ว. จังหวัดตากได้แสดงความเห็นว่า อำนาจในการเลือก กสช. นั้นเป็นอำนาจของวุฒิสภาไม่เกี่ยวกับองค์กรอื่น และศาลปกครองไม่น่าจะใช้อำนาจซ้ำซ้อนองค์กรอื่น และคาดว่าหากวุฒิสภามีมติเลือก กสช. ไปแล้ว ศาลปกครองคงจะยืนตามนั้น และจ่ายคดี คงไม่เป็นปัญหาเหมือนศาลรัฐธรรมนูญ


 


นายพนัสเสนอด้วยว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะพิจารณาเลือก กสช.จากรายชื่อ 14คนที่เสนอมา โดยถือเสมือนเป็นนิติกรรมที่ยังพอจะเลือกเอาส่วนที่ดีเพื่อให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยวุฒิสภาก็สามารถจะพิจารณาจากคุณสมบัติที่ กมธ. ได้ศึกษาและเสนอมาในรายงานอย่างละเอียดได้


 


อย่างไรก็ตามหากวุฒิสภามีความเห็นว่ากระบวนการสรรหากสช. ที่ผ่านมานั้นใช่ไม่ได้จริง ๆ ก็ไม่ควรดำเนินการคัดเลือกกสช. ต่อไปโดยกลับไปเริ่มต้นที่กระบวนการสรรหาใหม่


 


"ผมหมายถึงว่าอำนาจในการเลือกบุคคล ให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นอำนาจของวุฒิสภาโดยเฉพาะ เป็นอำนาจที่เอ็กคลูซีฟ คนอื่นไม่เกี่ยว เท่าที่มีวิวัฒนาการมาถึงตรงนี้ ตามหลักการของผมเราก็ดำเนินการไปได้ และถ้าหากว่าการสรรหานั้นใช้ไม่ได้เอามากๆ เราก็โยนทิ้งทีหลังได้


 


"ก็เหมือนกับการทำนิติกรรมนั้น เราเลือกอันที่เป็นส่วนดีกันบ้างไหม และในภาวะสุญญากาศตอนนี้ทำให้เกิดไอ้โม่งเข้ามาฉกฉวยทำมาหารับประทานกัน ผมก็เลยอยากจะฝากให้ช่วยกันคิดดู แต่ถ้าว่ากันในแง่กฎหมายถ้าเราถือว่าการสรรหาไม่ชอบ ถือว่าไม่มีฐานที่เราจะพิจารณาได้ก็คืนไป"


 


ท้ายที่สุด วุฒิสภาได้ลงมติดำเนินการเลือกกรรมการ กสช. ต่อไปด้วยมติ 122 เสียง เห็นสมควรให้ส่งกลับไปพิจารณาใหม่35 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง จากนั้นได้มีดำเนินการประชุมเพื่อคัดเลือก กสช. ต่อด้วยวิธีประชุมลับ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net