เชียงใหม่-27 ก.ย.2548 กลุ่มผู้ใช้น้ำจากฝายทั้ง 3 แห่ง ชุมนุมขวางอำเภอ หลังนำเครื่องจักรเข้ารื้อฝายท่าวังตาล หน้า อบต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนรัฐยอมล่าถอย นำเครื่องจักรออกไปจากจุดดังกล่าว ซึ่งหลังจากตรวจสอบพื้นที่ พบว่า มีการรื้อฝายหินทิ้งด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำปิงไปส่วนหนึ่ง
นอภ.รับ "ผู้ว่าฯ"สั่งรื้อฝาย
นาย
ในส่วนของอำเภอสารภี ได้เรียกประชุม อบต. เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเตรียมทำแนวกระสอบทรายไว้ตามจุดที่คาดว่าแม่น้ำปิงจะไหลทะลักเข้าท่วม โดยเฉพาะบริเวณ เวียงกุมกาม เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำปิงให้เตรียมพร้อม และฟังคำประกาศจากทางราชการตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พายุโซนร้อนดอมเรยได้ผ่านไปแล้ว ก็จะนำหินทั้งหมดกลับไปไว้ที่เดิมเพื่อทำเป็นฝายต่อไป
ชาวบ้านยันน้ำท่วมอย่าโทษฝาย
นายทูน หินโชติ ชาวบ้านบ้านป่าเส้า ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ชาวบ้านทุกคนไม่ยอมให้มีการรื้อฝาย ก็เพราะว่า หากมีการรื้อฝายทิ้ง จะทำให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำทั้งหมดได้รับความเดือด ร้อนกันทั้งหมด และขอยืนยันว่า ฝายเหล่านี้ไม่ได้เป็นสาเหตุของน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ แต่สาเหตุจริงๆ คือ แม่น้ำปิงมีความตื้นเขินและแคบลงต่างหาก
"ทำไมรัฐไม่บอกกล่าวกันเสียก่อน ไม่สอบถามหรือมีการทำประชาพิจารณ์กันเสียก่อน ทั้งๆ ที่ฝายท่าวังตาลนี้ ชาวบ้านเป็นคนสร้างกันขึ้นมา และเป็นฝายที่องค์ในหลวง เสด็จมาเป็นประธานเปิดฝายด้วย ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจการกระทำในครั้งนี้เป็นอย่างมาก" นายทูน กล่าว
นางจันทร์ ขัติสาร ชาวบ้านบ้านดอนแก้ว ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า พอได้ยินผู้นำชาวบ้านประกาศผ่านเสียงตามสาย ว่ามีการรื้อฝาย ก็รีบพากันมาคัดค้านทันที เพราะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะมารื้อฝายตรงนี้ทิ้ง เพราะเป็นฝายที่ทุกคนได้ดึงน้ำเข้าเหมืองไปใช้ในการเกษตรเพื่อทำนา ทำสวนลำไย ซึ่งหากรื้อฝายออกไป น้ำต้องแห้ง และทุกคนก็ต้องอดตายกันทั้งหมู่บ้าน
"ตั้งแต่เกิดใหญ่มาจนอายุ 60 ปี ไม่เคยมีใครบอกว่าฝายคือสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพราะลำน้ำปิงมันแคบลง เพราะมีกลุ่มนายทุน คนต่างชาติเข้ามาจับพื้นที่ริมฝั่ง แล้วยังมีการนำดินมาถมรุกล้ำเข้ามาในแม่น้ำจนแคบ ทำไมไม่ไปแก้ปัญหาจัดการกับคนกลุ่มนั้น ทำไมต้องมารื้อฝายของชาวบ้านด้วย และอยากบอกไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า หากยังคิดจะรื้อฝายอีก สมัยหน้าชาวบ้านจะไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้อย่างแน่นอน" นางจันทร์ กล่าวด้วยสีหน้าวิตกกังวล
ด้านนายนิพนธ์ เงาธรรม ชาวบ้านจากบ้านดอนแก้ว ก็ได้ออกมากล่าวว่า จะไม่ยอมให้มีการรื้อฝายเป็นเด็ดขาด เพราะว่า ฝายคือหัวใจของชาวบ้าน ของเกษตรกร แต่ทำไมต้องมารื้อ โดยที่ไม่มีการประชาพิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐทำไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านได้ออกมาคัดค้าน ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายชุมพร แสงมณี นายอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ลงมาประชุมร่วมกับกลุ่มตัวแทนของกลุ่มผู้ใช้น้ำ ที่ห้องประชุม อบต.ป่าแดด เพื่อร่วมเจรจาหาทางออกร่วมกัน
ซึ่งทางนายช่างชลประทานพยายามเสนอทางออกให้มีการรื้อฝายทั้ง 3 แห่งทิ้ง และมีการสร้างฝายยาง ตรงบริเวณวัดป่างิ้ว ต.ท่าวังตาล แทน และรับปากว่า จะรับผิดชอบในเรื่องการผันน้ำเข้าลำเหมืองให้กับผู้ใช้น้ำในการเกษตร โดยจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากลำน้ำปิง ไปยังลำเหมืองของชาวบ้าน ซึ่งตัวแทนชาวบ้านออกมาโจมตีว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะสูบน้ำขึ้นไปให้เพื่อทำการเกษตรซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 20,000 ไร่
ทั้งนี้ ได้มีมติออกมาว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการรื้อฝายทิ้ง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาน้ำแล้ง ไม่ไหลเข้าไปสู่ลำเหมือง ทำให้เกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้ง 3 อำเภอได้รับความเดือดร้อน และการรื้อฝายจะทำให้กระ แสน้ำเร็วและแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ตลิ่งสองฝั่งแม่น้ำปิง รวมทั้งพนังที่ใช้หินฉาบริมตลิ่งพังทลาย ซึ่งมติดังกล่าว ยืนยันให้นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ระงับคำสั่งการรื้อฝายดังกล่าวไว้ก่อน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)