ผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2548 รายงานอ้างเอเอฟพีว่า สหรัฐอเมริกาเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่กลุ่มคนร้ายอาจใช้เป็นชนวนเพื่อก่อการร้ายระหว่างประเทศ แต่ยังยืนยันว่ายังเป็นปัญหาภายในประเทศ นักวิเคราะห์อเมริกาห่วงสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้นและจะกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทางวอชิงตันจะนำมาพิจารณา

รัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชระบุไว้ในนโยบายว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยนั้นเป็น "ปัญหาภายในประเทศ" และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งเป็นนโยบายหลังของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ระบุว่าทางวอชิงตันยังเป็นห่วงว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 21 เดือนนี้อาจลุกลามเป็นการก่อการร้ายระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายกลุ่มอัลกออิดะห์ที่กระจายอยู่ทั่วเอเชีย

"เราเชื่อว่าวอชิงตันเป็นห่วงอย่างเงียบๆกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทยที่นับวันจะเริ่มเลวร้ายมากขึ้น"คาเรน บรูกส์ผู้อำนวยการด้านเอเชียของสภาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงกับรัฐบาล

คาเรน บรูกส์ ยังกล่าวอีกว่าความมั่นคงปลอดภัยในภาคใต้ของไทยจะกลายมาเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายของสหรัฐฯ

ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชียแต่ขณะเดียวกันทางวอชิงตันไม่ต้องการเข้ามามีบทบาทโดยตรงในสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศ

อดัม เอเรลีรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ระหว่าการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ว่าในขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ได้รับคำขอร้องให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในภาคใต้ของไทยแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามรองโฆษกรายนี้ยอมรับว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดนี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง และสำหรับทุกคนที่ต้องการเห็นความสงบเกิดขึ้นในไทย รวมถึงมิตรประเทศอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับไทยก็ต้องการให้เหตุการณ์สงบเช่นกัน

ทั้งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ราฟห์ บอยซ์เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้เข้าพบพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกันนายซาราพี บิน อิบรอฮิม เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยได้เข้าพบรองนายกรัฐมนตรีเช่นกัน

หลังการหารือ นายราล์ฟ บอยซ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังมองว่ายังเป็นปัญหาภายใน ยังไม่มีลักษณะของการก่อการร้ายสากลหรือมีการเชื่อมโยงกับองค์การก่อการร้ายระหว่างประเทศ แต่วันข้างหน้ายังไม่มั่นใจว่าจะพัฒนาไปถึงขั้นการก่อการร้ายหรือไม่