ประชาไท1 พ.ย. 2548 ผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ไทย ลาว พม่า วันนี้ ไทยได้ข้อตกลงเริ่มทำสัญญาคอนแทรคฟาร์มมิ่งข้ามชาติกับประเทศพม่าเป็นประเทศแรก
การประชุมยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่น้ำโขง หรือ ACMECS ครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนี้ โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยภายหลังการประชุมวาระแรกว่า การประชุมในวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการความร่วมมือใน 5 สาขา ได้แก่
1.การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ขณะนี้มีความคืบหน้า คือ การให้สิทธิพิเศษด้านภาษีแก่สินค้าเกษตร 10 ประเภท อาทิ ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น
มีการกล่าวถึงการตั้งตลาดกลางทางการค้าบริเวณชายแดน เพื่อสร้างความสะดวกในการนำเข้าสินค้า ส่วนการดำเนินการเรื่องระบบภาษีแบบหักบัญชี เพื่อสะดวกต่อการติดต่อการทำธุรกรรม ขณะนี้ไทยก็ได้ทำความร่วมมือเรื่องนี้กับพม่าแล้ว
ส่วนเรื่องการตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่สุวรรณเขต (ลาว) เมียวดี (พม่า) และเกาะกง (กัมพูชา) ขณะนี้ที่สุวรรณเขตและเมียวดีอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ส่วนที่เกาะกง อยู่ระหว่างโรด โชว์ ในฮ่องกงและสิงคโปร์ เพื่อชักชวนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่
2.ความร่วมมือด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม มีสัญญาการทำ Contact Farming กับพม่าเป็นประเทศแรก
3.การเชื่อมโยงการขนส่ง ด้านความร่วมมือเรื่องความเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ขณะนี้ก็มีการดำเนินการในหลายเส้นทางแล้ว อาทิ เส้นทางเกาะกง-สแลง-อัมบัท, เส้นทางสะพานแม่น้ำสายกับพม่าแห่งที่ 2 และเส้นทางสะพานข้ามแม่น้ำนครพนม
4.ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ด้านโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Four Countries One Destination ในการประชุมครั้งนี้ไทยจะลงนามในเรื่องนี้กับกัมพูชาเป็นประเทศแรก ในวันที่ 3 พ.ย. 2548
5.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไทยเสนอให้ทุนการศึกษาโดยปี 2548 จำนวน 20 ทุน ปี 2549 จำนวน 36 ทุน
การประชุม ACMECS ครั้งนี้ 2 นี้ยังเพิ่มความร่วมมือเข้ามาอีก 1 สาขา เพื่อรองรับการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งประเทศสมาชิก ACMECS กำลังเผชิญอยู่ คือ
6.ความร่วมมือด้านสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านสาธารณสุข และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน
นอกจากนี้การประชุมครั้งนี้ ยังจะให้ความสำคัญกับความร่วมมือในเรื่องการจัดหาแหล่งพลังงานทดแทนจากทรัพยากรการเกษตร เพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานในการผลิตของประเทศในกลุ่ม
และผลจากการประชุม จะนำไปส่งการลงนามในความร่วมมือ 2 ฉบับคือ หนึ่ง ปฏิญญาผู้นำ เพื่อสร้างกรอบ แนวทาง กลไก ความร่วมมือ และ สอง ปฏิญญาผู้นำว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเน้นย้ำเรื่องโรคเอดส์ ไข้หวัดนก และโรคติดต่ออื่นๆ