ชาวไทยใหญ่เล่ากันว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..... เมื่อแผ่นดินยังไม่มีสายน้ำ น้ำของและน้ำคงเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่ราบสูงธิเบต วันหนึ่งทั้งสองแข่งขันกันว่าใครจะเดินทางไปถึงทะเลก่อนกัน แต่มีข้อแม้ว่าการเดินทางจะต้องผ่านหุบเขาและที่ราบ ห้ามเดินทางลัดภูเขา การเดินทางไปสู่ทะเลเริ่มต้นขึ้น เส้นทางของทั้งสองแทบจะขนานกัน แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง..... น้ำของเดินทางไปเรื่อยๆ มุ่งใต้ผ่านหุบเขาแห่งที่ราบสูงฉานฝั่งตะวันออก และยึดมั่นในข้อตกลงว่า ไม่ไหลตัดผ่านภูเขา น้ำของเดินทางผ่านหุบเขา ที่ราบสูง และที่ราบลุ่มมากมาย จนกระทั่งถึงทะเลจีนใต้ที่เวียดนาม เส้นทางที่ไหลผ่านได้กลายมาเป็น "แม่น้ำโขง" สายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสายน้ำโขงไหลผ่านหุบเขาและที่ราบ สีของแม่น้ำโขงจึงเป็นสีขุ่น สีปูน หรือสีน้ำซาวข้าว ขณะที่แม่น้ำคงที่มุ่งลงใต้เช่นกัน แต่กลับเดินทางตัดผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า ก่อนที่จะผ่านที่ราบเพียงเล็กน้อยและไหลลงทะเลอันดามันที่อ่าวเมาะตะมะ เส้นทางที่น้ำคงไหลผ่านนั้น ได้กลายมาเป็น "แม่น้ำคง" ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นเรียกกัน หรือ "แม่น้ำสาละวิน" ที่เพี้ยนมาจากคำว่า "ตาลวิน" ในภาษาพม่า แม่น้ำสาละวินเป็นสายน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากแม่น้ำโขง เนื่องจากคงไหลตัดผ่านภูเขา น้ำสาละวินจึงมีสีเขียวมรกตไม่ค่อยขุ่นข้น น้ำของแพ้น้ำคง เพราะใช้เวลาและระยะทางในการเดินทางไปถึงทะเลมากกว่า เมื่อน้ำของรู้ว่าเพื่อนไม่ซื่อสัตย์ จึงโกรธแค้นและสาปแช่งว่า "วันใดที่เจอกับคง แผ่นดินจะลุกไหม้ด้วยไฟประลัยกัลป์" ความโกรธแค้นนี้ ทำให้มีเรื่องเล่ากันว่า หากนำน้ำจากแม่น้ำโขงกับแม่น้ำสาละวินมาใส่รวมกัน น้ำจะกลายเป็นสีเลือด นิทานเรื่องนี้ถูกเล่าขานกันมานานและคนริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองต่างก็เชื่อในเรื่องเหล่านี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีคนกำลังผลักดันให้มีการสร้างเขื่อนและผันน้ำ ทั้งจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวินมาลงที่ลุ่มเจ้าพระยา !!! ฯลฯ บางส่วนจาก "โครงการผันน้ำสาละวิน : คำสาปต่อสายน้ำ" ในหนังสือเขื่อนสาละวิน โศกนาฏกรรมสองแผ่นดิน (๒๕๔๖) โดยเครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์ข่าวสาละวิน และองค์กรพันธมิตร |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)