เครือข่ายเอดส์ทวงสัญญารัฐ หนุนเลิกหาเชื้อก่อนรับทำงาน

 

 

ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ หนุนยกเลิกการตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนเข้าทำงาน เชื่อหากรัฐยกเลิกนโยบายดังกล่าว เอกชนจะปฏิบัติตาม พร้อมสนับสนุนการตรวจเลือดโดยสมัครใจเพื่อดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีหากติดเชื้อฯ

 

เนื่องในโอกาสวันเอดส์โลกซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ในปีนี้โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอดส์) ให้คำขวัญรณรงค์ว่า "หยุดเอดส์ รักษาสัญญา" (Stop AIDS, Keep the Promise.) เพื่อให้สังคมหันมาสนใจปัญหาเอดส์และทวงสัญญาจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศที่เคยให้ไว้ว่าจะร่วมแก้ปัญหาเอดส์

 

นายกมล อุปแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะเคยสัญญาในการประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ ครั้งที่ 15 ที่เมืองทองธานีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ว่า จะทำให้ผู้ติดเชื้อฯ กลับสู่สังคม มีงานทำ มีรายได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับไม่มีแนวทางที่ชัดเจน หน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด ฯลฯ ยังกำหนดให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับเข้าทำงาน เป็นการกีดกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อฯ ใช้ความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้หากภาครัฐยกเลิกนโยบายตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับเข้าทำงาน ก็น่าจะทำให้ภาคเอกชนปฏิบัติตามจนกลายเป็นมาตรฐานเดียว

 

นายกมล กล่าวว่า คนในสังคมต่างก็มีข้อมูลเรื่องเอดส์ แต่เพราะทุกคนเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว จึงทำให้ปัญหาเอดส์ได้แพร่ไปสู่กลุ่มที่คิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มเยาวชน เนื่องจากคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักของตัวเองไม่น่าจะติดเชื้อฯ ทั้งที่ความจริงแล้ว การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางฯ ไม่ว่าจะกับใครก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งนั้น

 

ปัจจุบันคาดการณ์ว่า มีผู้ติดเชื้อฯ 6 แสนราย ในจำนวนนี้ 3 แสนรายไม่ทราบว่าตัวเองมีเชื้อฯ ส่วนหนึ่งเนื่องจากคิดว่าตัวเองไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงไม่คิดจะตรวจ และอีกส่วนหนึ่งที่รู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยงแต่ไม่กล้าไปตรวจเพราะกลัวว่าจะทำใจไม่ได้หากผลเลือดออกมาเป็นบวก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนตรวจเลือดเพื่อจะได้รู้ผลเลือดของตัวเอง หากผลเลือดเป็นบวกก็จะได้เตรียมตัวเรื่องการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เพราะเอดส์รักษาได้ โดยควรรับบริการปรึกษาก่อนตรวจ หากรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไม่ปล่อยให้โรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรค เชื้อราในสมอง เกิดขึ้นกับร่างกาย ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาว นายกมลกล่าว

 

ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ติดเชื้อฯ สามารถเข้ารับการรักษาได้ตามหลักประกันสุขภาพที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งในขณะนี้บรรดาองค์กรที่ทำงานด้านเอดส์พยายามผลักดันให้หลักประกันสุขภาพทุกระบบมีมาตรฐานการรักษาเดียวกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท