วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2005 18:00น.
อาทิตย์ เคนมี, ปกรณ์ พึ่งเนตร : ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ยอมรับว่า แนวคิดของ พล.ต.อ.
นาย
"เราอยากให้เด็กๆ และเยาวชนพวกนี้กลับมา เพราะบางคนก็ไม่ได้ทำความผิดอะไรมากมาย สาเหตุที่หลบหนีไปก็เพราะกลัว ทาง กอส.เองก็เคยตั้งวงหารือเรื่องนี้กันหลายหน และท่านชิดชัย ก็เป็นกรรมการอยู่ใน กอส.ด้วย ก็หารือกันมานาน แต่รูปแบบที่จะยกร่างเป็นกฎหมายยังไม่ลงตัว เพราะสามารถทำได้หลายรูปแบบ"
นาย
เขายกตัวอย่างว่า หากจะออกกฎหมายเพื่อยกเลิกคดีความของผู้ที่ออกมามอบตัวกับทางราชการ ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า ดุลยพินิจของอัยการในการสั่งฟ้องจะเป็นอย่างไร ถ้าการกระทำของผู้ต้องหาครบองค์ประกอบความผิด ยังจะต้องสั่งฟ้องหรือไม่ หรือหากมีหมายจับอยู่แล้ว จะยกเลิกหมายจับหรือเปล่า เป็นต้น
อย่างไรก็ดี หากคดีเข้าสู่อำนาจศาล ซึ่งหมายถึงคดีที่ฟ้องร้องต่อศาลแล้ว ฝ่ายบริหารคงเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ฉะนั้นกฎหมายที่ยกร่างออกมา จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในส่วนนี้
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วกฎหมายลักษณะเดียวกันนี้ในต่างประเทศมีใช้อยู่หลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้มีขอบเขตกว้างขวางถึงการนิรโทษกรรม เช่น กฎหมายต่อรองคำรับสารภาพ และกฎหมายชะลอการฟ้อง เป็นต้น ทว่าขณะนี้ นโยบายของ พล.ต.อ.ชิดชัย ยังไม่ชัดเจนว่าจะให้ใช้รูปแบบใด จึงต้องรอความชัดเจนก่อน
"ผมอยากจะขอร้องสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ฉะนั้นการจะนำเสนอข่าวต้องระมัดระวัง และควรรอให้มีความชัดเจนเสียก่อน เพราะปัจจุบันนี้ เวลาที่สังคมรับรู้ข่าวสารอะไรไปแล้ว จะฝังใจในเรื่องนั้นไปเลย ฉะนั้นหากไปเสนอข่าวในเชิงลบ นโยบายในเรื่องนั้นๆ ก็จะเสียไป ขณะที่นักกฎหมายก็ไม่ควรใจร้อนให้ความเห็นในเรื่องนี้เร็วเกินไป" นายชาญเชาวน์ กล่าว