"แดจังกึม" บันไดสู่มหาอำนาจของเกาหลี : The Visible Man ของ "ประชาไท หมายเลข 5"

 






ลองหลับตา ย้อนนึกกลับไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 จนถึงวันนี้ แล้วถามตัวเองว่า หากเราย่นย่อเวลาได้เท่ากับระยะที่สมองและหัวใจส่งสัญญาณได้ "คุณเห็นใครในปีที่ผ่านมา" และนี่คือโจทย์ที่กองบรรณาธิการประชาไทแต่ละคนได้รับ เพื่อให้มันเหมาะกับวาระแห่งการสรุปบทเรียนอย่างในช่วงปีเก่าผ่าน-ปีใหม่มานี้

 

โปรดอย่าเพิ่งคิดว่า บุคคลที่อยู่ในหัวข้อข้างบนเป็นบุคคลที่ "ประชาไท" จัดให้เป็น "The Visible Man" ของเรา เพราะบทวิพากษ์วิจารณ์ต่อจากนี้ เป็นการนำเสนอคนที่อยู่ในสายตาในรอบปี 2548 จากบุคคลในกองบรรณาธิการประชาไท คนที่ 1 ที่ผ่านการสืบค้น วิเคราะห์ วิพากษ์ ชั่ง ตวง วัด และให้น้ำหนัก จากจำนวนทั้งหมด 8 คน ซึ่งจะทยอยนำเสนอวันละคนจนครบ 8 ก่อนที่เรา "กองบรรณาธิการประชาไท" จะได้ร่วมกันประชุม ถกเถียง และเลือกโดยใช้หลักฉันทามติ ซึ่งก็คือ ทุกคนจะต้องเห็นพ้องต้องกันอย่างปราศจากข้อข้องใจ เพื่อให้ได้ "The Visible Man" ของ "ประชาไท" โดยมี อ.รุจน์ โกมลบุตร จากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินการประชุม

 

 

ภาพจาก www.dailynews.co.th

 

ถ้าพูดถึงบุคคลแห่งปีแล้วนึกถึงใคร? เป็นคำถามง่ายๆ ที่ตอบยาก เพราะช่วงเวลาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้ก่อเกิดฮีโร่ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์เทียม ตลอดจนอาชญากรขึ้นมากมาย จนแทบจะจำไม่ได้ว่าบุคคลเหล่านั้นมีคุณูปการอย่างไร

 

แต่ถ้าหากจะลองเกาะกระแสความสนใจของใครต่อใครอีกหลายคน ในช่วงปีที่ผ่านมา หญิงสาวในนาม "แดจังกึม" น่าจะเป็นหนึ่งในชื่อที่เมื่อพูดไปแล้ว ใครก็คงต้องร้องอ๋อ

 

และแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงตัวละครบนจอโทรทัศน์ แต่ตัวละครตัวนี้กลับมีพลังต่อโลกแห่งความจริงอย่างน่ามหัศจรรย์

 

"แดจังกึม" ต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจ

"แดจังกึมกำลังสอนคนทั่วโลกทำอาหารเกาหลี ทำให้คนดูทั่วโลกรู้จักอาหารเกาหลี ทำให้คนทั่วโลกเห็นสถานที่ท่องเที่ยว ผลที่ได้กับประเทศคือด้านการส่งออกทั้งอาหารและบริการท่องเที่ยวเกาหลี วิธีคิดแบบนี้ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับสินค้าของเกาหลี ปัจจุบัน เกาหลีได้สร้างวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมาเพื่อการส่งออกของประเทศโดยเฉพาะ โดยผ่านทางการสร้างภาพยนต์ นักร้อง เพลง ทั้งหมดนี้สนับสนุนโดยรัฐบาล

 

"กระทรวงการท่องเที่ยวไทย ต้องดูเป็นตัวอย่าง การทำอย่างนี้ไม่ต้องใช้วิทยาการ แต่ใช้ความมุ่งมั่นเท่านั้น" นี่คือถ้อยแถลงจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับบทเรียนจากแดจังกึม ถึงแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ในวันที่อะไรๆ บนโลกใบนี้ก็แคบลง

 

นอกจากท่วงถ้อยเจรจาจากเจ้าใหญ่นายโตในสังคมไทย บทพิสูจน์อีกประการถึงคุณูปการของ "แดจังกึม" สาวน้อยหน้าใสจากแดนโสม คือการเติบโตขึ้นของกิจการโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีในเมืองไทย หลังจากที่กระแสซีรี่ส์สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตามเป้า แม้ว่าจำนวนของผู้เรียนอาจจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การเพิ่มขึ้นนั้นก็มีนัยยะสำคัญที่ต้องติดตามถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของไทย และเกาหลี

 

มยอง วอน คิม ผู้บริหารศูนย์ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี (Korean Language Education & Culture Center) กล่าวว่า "ต้องการทำให้ภาษาเกาหลี และวัฒนธรรมเกาหลีเป็นที่รู้จักของคนไทย เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ เมื่อภาวะเศรษฐกิจต่างก็กำลังดำเนินไปด้วยดี มีการทำงานร่วมกัน เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่นักธุรกิจไทยบางคน หรือคนไทยบางคนจะสนใจดำเนินธุรกิจกับชาวเกาหลี ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาเกาหลีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

"นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยก็เปิดสอนภาษาเกาหลีเพิ่มมากขึ้น ทำให้นักเรียน นักศึกษาสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาเกาหลีได้ ซึ่งผู้ที่สนใจเรียนก็คือนักเรียน นักศึกษา และนักธุรกิจ อายุระหว่าง 20-30 ปีเป็นส่วนใหญ่ ส่วนกระแสละครเกาหลีในเมืองไทย ทำให้คนไทยหันมาเรียนภาษาเกาหลีนั้นก็มีบ้าง แต่เป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนพบว่าเพิ่มขึ้นเพียง 10% เท่านั้น" (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 19 ธ.ค. 2548)

 

แดจังกึม กับวัฒนธรรมการกิน การอ่าน และการสื่อสารในสังคมไทย

กระแสร้านอาหารเกาหลีในเมืองไทยที่ครั้งหนึ่งดูจะเป็นรองจากร้านอาหารอื่นๆ ในบัดนี้เมื่อ "แดจังกึม" ปรากฏกายในบทบาทของแม่ครัวแห่งราชสำนัก ร้านอาหารเกาหลีเหล่านี้ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น พร้อมกันกลับจำนวนยอดขายหนังสือที่มีชื่อเดียวกับละคร "แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง"

ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นความสำเร็จของกระบวนการแทรกซึมทางวัฒนธรรมในเชิงเศรษฐกิจ

 

ในแง่ของสื่อมวลชน นอกจากแดจังกึมจะช่วยส่งเสริมให้บทบาทของรายการเล่าข่าวยามเช้าโดยสี่สาวพิธีกรของช่อง 3 ดูโดดเด่นขึ้นแล้ว ในอีกมุมหนึ่ง "แดจังกึม" ยังช่วยเปิดเผยความจริงที่ว่า การรับฟังเรื่องราวจากสื่อโทรทัศน์ในเมืองไทย ต้องระวังระไวเรื่องการถูกชักจูง เพราะช่วงที่ผ่านมาหากใครมีโอกาสติดตามรายการดังกล่าวในช่วงเช้าๆ ของวันจันทร์ ถึงศุกร์คงจะรับรู้ว่า นอกจากเนื้อหาข่าวสารสัพเพเหระ กระบวนการชักจูงให้ผู้คนหันมาสนใจ "แดจังกึม" ก็กลายเป็นหนึ่งในสาระสำคัญของรายการ ทำให้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า บทบาทของผู้ประกาศข่าว ที่ควรได้รับความน่าเชื่อถือจะเป็นอย่างไร เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้คอนเซ็บต์ของสถานีโทรทัศน์ ที่พยายามชี้นำให้ผู้คนที่รับข่าวสารหันมาสนใจรายการของตนในเชิงธุรกิจ

 

ประการสำคัญที่สุดที่ "แดจังกึม" สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี (ในวันที่ผู้คนในสังคมไทยไม่สามารถคาดหวังถึงความโปร่งใสทางการเมือง) ก็เนื่องมาจาก "แดจังกึม" จะไม่ทำให้คนที่ชื่นชอบ และชื่นชมในตัวเธอผิดหวัง เพราะเธอจะยังเป็นนางเอกที่แสนดี และโปร่งใสอยู่เสมอ ด้วยชีวิตของเธอถูกลิขิตบทบาทมาแล้วว่า ต้องเป็นคนดีตลอดไป ไม่ว่าสถานการณ์ของสังคมไทยจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท