สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ความเคลื่อนไหวของสนธิ ลิ้มทองกุล ในสายตาประชาชน" จากการสำรวจและเก็บข้อมูลจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งสิ้น 1,546 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม พบคนกรุงเกินครึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของสนธิ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2549 ดร.
พบว่า ร้อยละ 54.1 ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของนายสนธิ ขณะที่ร้อยละ 45.9 ระบุไม่ได้ติดตาม และมีความเห็นว่า ข้อมูลที่นายสนธินำมาเปิดเผยนั้น น่าเชื่อถือร้อยละ 69.2 และเห็นด้วยที่มุ่งโจมตี พ.ต.ท.
ส่วนประเด็นเรื่องจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายหลังการออกมาเคลื่อนไหวของนาย
นอกจากนี้ ดร.นพดล ยังได้กล่าวเตือนการใช้มาตรการตอบโต้ของรัฐบาลว่า จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดดยแสดงความเป็นห่วงว่า การเปิดโอกาสให้มีการชุมนุมแบบ "ม็อบชนม็อบ" ปรากฏการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามมาอาจจะเป็นความเสียหายที่ใหญ่หลวง อาจทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ หรือหากอยู่ได้ก็ทำงานลำบาก
"รัฐบาลควรแสดงออกแบบสร้างสรรค์ไม่นิยมความรุนแรง ควรลืมอดีตที่เป็นความเจ็บแค้นส่วนตัวของกันและกัน หันมาเร่งดำเนินการตรวจสอบแก้ไขตามข้อมูลที่นายสนธินำเสนอ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ หลายโครงการ รวมไปถึงการใช้อภิสิทธิ์เหนือประชาชนทั่วไปของกลุ่มเครือญาติ หรือบุคคลใกล้ชิดรัฐมนตรี และการรักษาความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม" ดร.นพดล กล่าว