21 กุมภาพันธ์ 2549
ม.บูรพามาแรงจี้"ทักษิณ"ยุติบทบาทการเมืองพร้อม ส.ส.ทรท.
ศูนย์ข่าวศรีราชา - มหาวิทยาลัยบูรพาออกแถลงการณ์ขับไล่ "ทักษิณ ชินวัตร" ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยุติดบทบาททางการเมืองไปพร้อมกับบรรดาลิ่วล้อ ส.ส.ในพรรคไทยรักไทย ทั้งหมด ระบุที่ผ่านมามีแต่สร้างปัญหาให้ประเทศ ขณะที่นิสิต ม.บูรพา ประกาศเคลื่อนไหวใหญ่อย่างต่อเนื่อง อัดหมดความชอบแล้ว
วันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 10.00 น. มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งนำโดยรองศาสตราจารย์สมชาย เดชะพรหมพันธุ์ อดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา รองศาสตราจารย์ ดร.
พร้อมด้วยแกนนำนิสิต นาย
ในการแถลงการณ์ดังกล่าวทางฝ่ายอาจารย์ได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เพียงการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว แต่ควรให้มีการยุติบทบาททางการเมืองเลย ซึ่งหมายรวมไปถึง ส.ส.ในพรรคไทยรักไทยทั้งหมดด้วย เพราะหากให้นายกฯ ลาออกเพียงคนเดียวก็ไม่มั่นใจว่าต่อไปจะมีตัวแทนเข้ามาบริหารอีกหรือไม่ และแม้จะมีการเลือกตั้งใหม่ก็ไม่เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะมีความชอบธรรมและโปร่งใส
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.
1 ปัญหาภาคใต้ หากยังคงดำรงตำแหน่งอยู่สถานการณ์จะต้องลุกเป็นไฟ
2.ปัญหาการโกง คือ การคอรัปชั่น
3.การละเมิดของรัฐ คือการที่ละเมิดชาติไทย
4.การพูดจาโกหก อย่างเรื่องการซุกหุ้น การจะนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ
5.การสร้างความมอมเมาโดยเฉพาะเรื่องหวยและการเปิดบ่อนเสรี ซึ่งถือว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวเพราะที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการแบบเผด็จการเพราะฉะนั้นการแก้ก็ต้องแก้ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น
ด้านแกนนำนิสิตก็มีความเห็นเช่นเดียวกับอาจารย์ที่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เพียงแค่การพิจารณาตัวเองลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น แต่ขอให้ยุติบทบาททางการเมืองลงทั้งหมด รวมไปถึงพรรคไทยรักไทยที่ต้องยุติด้วยเช่นกัน
โดยนายภาคิไนย กล่าวว่า การแถลงการณ์ในครั้งนี้เป็นการรวมทั้งหมดของมวลชนมหาวิทยาลัยบูรพา เพราะการดำเนินงานบริหารของ พ.ต.ท.
ส่วนปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของนาย
ทั้งนี้ ทางด้านนิสิตยังเผยด้วยว่า หลังจากนี้ต่อไปจะมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นโดยจะมีการจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี และการจัดเวทีปราศรัยต่อไปด้วย
สำหรับหนังสือแถลงการณ์ของคณาจารย์ และบุคลากร มหาวิทยาลัยบูรพามีเนื้อดังนี้......
ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันกำลังส่อเค้าถึงปัญหาที่อาจจะเกิดความโกลาหลวุ่นวายและความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทย จนไม่อาจจะเยียวยารักษาให้หายไปได้ในระยะเวลาอันสั้น อันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงก้าวหน้าทางเศรษฐกิจหลักแห่งคุณธรรม จริยาธรรมอันดีงามของสังคม และความมั่นคงระบอบประชาธิปไตย และของประเทศในอนาคตสาเหตุสำคัญมาจากความไม่ชอบธรรมในการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.
1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้อำนาจทางการเมืองเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของครอบครัว ญาติ และพวกพ้อง จนทำให้เกิดความเสียหาย ต่อประเทศชาติ อย่างใหญ่ หลวง เช่น การสูญเสียภาษี ที่รัฐควรจะได้จากยอดเงินรายได้ในการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯ 73,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นการยกสมบัติของชาติให้แก่ชาวต่างชาติ ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของชาติ ได้แก่ ดาวเทียมไทยคม และคลื่นความถี่โทรทศัพท์ อันได้รับ สัมปทานจากรัฐ โดยมีการวางแผนที่แยบยล แนบเนียนแต่ไร้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมของความเป็นผู้นำประเทศ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่สังคม ซึ่งมีวิธีการดังนี้ คือ
- ดำเนินการแก้กฎหมายที่เป็นพระราชบัญญัติ การประกอบกิจการโทรคมนาคม จาการอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกิดร้อยละ 25 เป็นให้ถือหุ้นได้ถึงร้อยละ 49 เพื่อให้กองทุนต่างชาติสามารถซื้อหุ้นของกลุ่มชินคอร์ปฯ ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และการดำเนินการซื้อขายก็ได้ดำเนินการดำเนินการ 2 วัน หลังจากกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ (กฎหมายผ่านประกาศใช้วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 ขายหุ้นชินคอร์ป วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 เหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยความบังเอิญแต่เกิดจากการวางแผนอย่างแยบยล ครอบครัว ญาติและพวกพ้อง ซึ่งเป็นการใช้ความรู้ความสามารถ โอกาสและอำนาจในทางที่ไม่ชอบธรรม เรากลุ่มอาจารย์และบุคคลากรมหาวิทยาลัยจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าที่เราพยายามสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นพลเมืองดี ต้องเสียภาษีรายได้ให้แก่ประเทศชาติว่าจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง ในเมื่อผู้นำระดับนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ทำเป็นเยี่ยงอย่าง อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไรหากคนที่คิดและปฏิบัติ อย่างชาญฉลาด เช่น ที่นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ในกรณีขายหุ้นครั้งนี้
- ทำการขายหุ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ด้วยการถ่ายโอนหุ้นของตนเองและภรรยาให้กับผู้ใกล้ชิด เช่น ลูก คนขับรถ
2 มีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่ชี้ให้เห็นว่าทำลายเจตนารมณ์ของรัฐธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างเสมอว่าตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข แต่ในทางปฏิบัติกลับส่อแสดงถึงความเป็นเผด็จการ และทรราชมากยิ่งขึ้นทุกขณะ ไม่สนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน บิดเบือนปิดบังข้อมูล ข่าวสาร แต่กลับกล่าวหาประชาชนว่าไม่รักษากติกาประชาธิปไตย
3 สร้างปัญหาแก่ชุมชนระดับรากหญ้า ให้ตกอยู่ในภาวการณ์เป็นหนี้สินมากมายยิ่งขึ้น การโปรยเงินลงสู่ชุมชนชนบาท กองทุนหมู่บ้าน จะทำให้ชาวชนบท ทยอยกันเป็นหนี้จนถึงการเป็นหนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขให้สมดุลไปได้ในระยะยาว ซึ่งวิธีการสร้างภาพว่าจะแก้ไขความยากจนอันเป็นภาพผิวเผินเท่านั้น
4 ก่อให้เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงของสังคมไทย การเกิดม็อบชนม็อบระหว่างประชาชน นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นฝ้ายต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับกลุ่มผู้รับผลประโยชน์จากนโยบายประชานิยม ของพรรคไทยรักไทย ความรุนแรงนี้คือต้นเหตุแท้จริงมากจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายประชานิยม ของพรรคไทยรักไทย ความรุนแรงนี้เป็นต้นเหตุแท้จริงมากจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ที่มีพฤติกรรมให้ก่อเกิดม็อบทั้ง2 กลุ่มจนเกิดปัญหาแก่ชาติบ้านเมืองในด้านความมั่นคง
จากเหตุผลดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำสังคมอีกต่อไป เพราะมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในครอบครัวที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างประมาณค่ามิได้ ส่อให้เห็นว่าสังคมไทยด้อยพัฒนาอย่างยิ่ง ในสังคมที่เจริญก้าวหน้า ผู้นำจะไม่กระทำการใดๆ ที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่แก้หรือออกกฎหมายให้เอื้อประโยชน์ต่อครบครัวและพวกพ้อง เพราะนอกจากจะไม่สร้างปัญหาในสังคมแล้ว ประเทศชาติยังได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย
ดังนั้น กระบวนการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศจึงเป็นกระบวนการนำพาประเทศชาติไปสู่การยอมรับพัฒนาการทางสังคมจากนานาอารยประเทศมากกว่าการพยายามสร้างเมคกะโปรเจคของรัฐบาล การเรียกร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ เพราะพวกข้าพเจ้าต่อต้านรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งมีเสียงมาก หากแต่เพราะการบริหารราชการแผ่นดินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่สุจริตไม่คำนึงถึงประโยชน์บ้านเมืองไม่มีหลักธรรมภิบาล
ดังนั้น พวกข้าพเจ้าจึงเห็นสมควรขอให้นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.
ที่มา: http://www.manager.co.th
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)