ประชาไท - 31 ม.ค.49      เครือข่ายประชาสังคมทั่วโลกออกแถลงการณ์แสดงความวิตกปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเนปาลที่รุนแรงมากขึ้นทุกที พร้อมทั้งเชิญชวนชาวไทยร่วมชุมนุมโดยสงบหน้าสถานทูตเนปาลพรุ่งนี้ (1 ก.พ.)

เครือข่ายประชาสังคมกว่า 14 ประเทศ ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่กษัตริย์จเนนทราแห่งเนปาลทำลายระบอบประชาธิปไตย และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง รวมทั้งความรุนแรงในการต่อสู้กับกลุ่มนิยมลัทธิเหมา (หรือพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล) ที่ยังดำรงอยู่

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.48 ที่กษัตริย์องค์นี้ขึ้นครองอำนาจ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน นักกฎหมาย ผู้นำสหภาพแรงงาน นักข่าว นักศึกษา จำนวนกว่า 6,000 คนถูกจับกุมไปกักขังในสถานที่ชั่วคราวซึ่งมีสภาพเลวร้าย และกองกำลังรักษาความมั่นคงของรัฐบาลได้กวาดล้างผู้ชุมนุมซึ่งเรียกร้องให้กษัตริย์คืนอำนาจแก่รัฐสภาเพื่อให้ทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยด้วยความรุนแรง

นอกจากนี้มาตรการรุนแรงในการตอบโต้กลุ่มขบถลัทธิเหมาภายใต้การปกครองของกษัตริย์จเนนทรา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นับจนถึงวันที่ 6 ม.ค.49 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,409 คนใน 65 จังหวัดจาก 75 จังหวัด โดยรัฐบาลอ้างว่ามีสาเหตุมาจากการสู้รบของประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิเหมา อย่างไรก็ตาม การประหัตประหารกันอย่างรุนแรงส่งผลให้ประชาชนรู้สึกไม่มั่นคง ต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานบ้านเกิด สาธารณูปโภคต่างๆ ถูกทำลาย รวมทั้งไม่สามารถเข้าถึงบริการสังคมในกรณีเร่งด่วนได้

เหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไป แม้จะมีการยกเลิกภาวะฉุกเฉินในวันที่ 29 เม.ย.48 แล้ว โดยมีประกาศอย่างน้อย 35 ฉบับที่ออกมาโดยมิผ่านขั้นตอนตามกระบวนการ เพื่อปกป้องคุ้มครองระบอบเผด็จการ จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม คุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชน เอ็นจีโอ พลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งจำกัดสิทธิของสหภาพแรงงานด้วย

เครือข่ายประชาสังคมทั่วโลกจึงเรียกร้องให้กษัตริย์เนปาล ยกเลิกพระราชโองการของพระองค์ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ, ฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคการเมืองโดยทันที, รับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกประการ, ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนทั้งหลายที่ถูกจับกุม รวมทั้งยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่มิได้ผ่านกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นประกาศควบคุมและลงโทษ ประกาศเกี่ยวกับการก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบ ฯ

ขณะเดียวกันก็มีข้อเรียกร้องไปยังพรรคคอมมิวนิสต์ของเนปาลด้วยให้เคารพและยึดมั่นในมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน, ปฏิบัติตามข้อตกลง 12 ประเด็นที่ได้ทำร่วมกันกับพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคเมื่อวันที่ 22 พ.ย.48 ที่สำคัญต้องประกาศสงบศึกษาเพื่อยุติความรุนแรง และแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

นอกจากนี้กลุ่มเครือข่ายจากทั่วโลก ยังนัดชุมนุมหน้าสถานทูตเนปาลในประเทศต่างๆ โดยพร้อมเพรียงในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) เพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยในความทุกข์ยากของประชาชนเนปาล และมอบหนังสือแถลงการณ์ผ่านสถานทูตเนปาลไปยังกษัตริย์เนปาล

ทั้งนี้ องค์กรเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยทั่วโลกที่ร่วมลงนาม มาจากประเทศต่างๆ ดังนี้ แคนาดา บังคลาเทศ อังกฤษ ปากีสถาน เบลเยี่ยม อินเดีย เนปาล อินโดนีเซีย ไทย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ศรีลังกา