อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม
4 มีนาคม 2549
ดร.ทักษิณครับ
ผมต้องเขียนจดหมายรักถึงดร.ทักษิณ เป็นฉบับที่ 2 เพราะดร.ทักษิณพูดถึงผมที่สนามหลวงเมื่อคืนนี้ (คืนวันที่ 3 มีนาคม หนังสือพิมพ์บางฉบับพิมพ์คำต่อคำ
"ส่วนท่านจำลอง ไม่สบายใจอะไรก็มาบอกกัน มาบอกลูกน้องผมก็ได้ ใครไม่ให้พูดสายกับผมหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมจะเขกกบาลให้ ท่านจำลองก็เคยรักผมเหมือนศิษย์เอกคนหนึ่ง แต่วันนี้เข้าใจผิดกัน ผมพร้อมจะไปหา"
ผมไม่ได้โทรถึง ดร.ทักษิณหรอกครับ เพราะจดหมายฉบับแรกของผม ตามด้วยข้อเสนอในระยะเวลาต่อมา ที่ขอให้ ดร.ทักษิณลาออกนั้น มีรายละเอียดอยู่ครบแล้ว ดร.ทักษิณ พูดว่าจะไปหาผม ไม่ต้องหรอกครับ จะเสียเวลา เพราะเวลาของคนที่ทำหน้าที่ นายกฯ มีน้อยอยู่แล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า
ถ้าไปหาผม คุยกันก็ต้องเถียงกัน ต่างคนต่างยืนยัน ผมก็จะเสนอแนะเหมือนเดิมให้ ดร.ทักษิณลาออก ดร.ทักษิณก็จะพูดคำเดิม "ไม่ออก" เสียเวลาเปล่าๆ
ดร.ทักษิณพูดว่า "เข้าใจผิดกัน" ผมเข้าใจถูก เข้าใจเหมือนประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารหลายคน หลายองค์กรทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งออกมาเรียกร้องให้ ดร.ทักษิณลาออกเพราะขาดความชอบธรรม มีทั้งคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ (นำโดยอาจารย์อมรา คณบดีคณะรัฐศาสตร์จุฬา) ครูบาอาจารย์ทั่วทุกภาดของประเทศ นิสิต นักศึกษา นักเรียน องค์กรประชาธิปไตยอีกนับไม่ถ้วน
เมื่อวานซืนนี้ (2 มีนาคม) เครือข่ายแพทย์อาวุโส ประกอบด้วย คุณหมอผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่เคารพรักของคนทั้งบ้านทั้งเมือง เช่น อาจารย์หมอบรรลุ อาจารย์หมอไพโรจน์ อาจารย์หมออารี อาจารย์หมอมรกต อาจารย์หมอมงคล อาจารย์หมอจุรี ก็ออกแถลงการณ์ว่า
"หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาวิกฤตของชาติครั้งนี้ คือ นายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.
ส่วนอาจารย์หมอประเวศนั้น ท่านทั้งพูดทั้งเขียนแนะให้ ดร.ทักษิณลาออก สำหรับอาจารย์หมอเสม ซึ่งเคยทุ่มสุดตัวช่วย ดร.
ท่านสมณะโพธิรักษ์ ซึ่งเป็นพระอีกองค์หนึ่งที่ระดมญาติธรรมชาวสันติอโศกหนุน ดร.ทักษิณตลอดมานั้น เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมไปปฏิบัติธรรมที่พุทธสถาน ศาลีอโศก ท่านเรียกผมไปพบ แล้ววิเคราะห์เกี่ยวกับ ดร.ทักษิณให้ผมฟัง ลงเอยด้วยคำพูดว่า ท่านไม่ได้บอกนะว่าผมควรจะทำอะไร แต่หัวข้อของหนังสือ "เราคิดอะไร" (ที่ผมเขียนอยู่เป็นประจำด้วย) ชื่อว่า "เพราะข้าโง่มาก่อนไง...จึงหลงส่งเสริมเขา"
ผมคิดเถียงในใจว่าผมไม่โง่ที่ไปเชื่อเชิญ ดร.ทักษิณมาสู่วงการเมือง เพราะเป็นนายกฯ 3 ปีแรก ทำได้ดี มาเริ่มเขวเอาปีที่ 4 พอปีที่ 5 ก็พลาดหลายเรื่อง โดยเฉพาะการขายหุ้นให้สิงคโปร์
เมื่อคืนนี้ ดร.ทักษิณพูดถึงท่านประธานอุทัยว่า "วันก่อนที่เห็นท่านอุทัย (พิมพ์ใจชน) เดินขึ้นเวทีสนามหลวงก็ตกใจ เพราะความจริงไม่มีอะไรกันเลย" อาจารย์หมอเฉก พูดกับผมหลายครั้ง (ที่โรงเรียนผู้นำ) ว่าจำได้ตอนที่ท่านประธานอุทัย ตอบผู้สื่อข่าวในทำนองว่าสนับสนุน ดร.ทักษิณ เพราะ ดร.ทักษิณมาจากพลังธรรม ต้องมีอะไรดีๆ ติดมาแน่
ดร.
ดร.
วิกฤตของชาติขณะนี้ มีวิธีแก้อยู่ทางเดียวคือ ดร.
ผมไม่บังอาจที่จะพูดอย่างที่ ดร.ทักษิณ พูดเมื่อคืนนี้ว่า ดร.
ดร.ทักษิณครับ เป็นนักการเมืองที่ดีนั้น นอกจากจะต้องซื่อสัตย์ และเสียสละแล้วต้องเป็นสุภาพบุรุษด้วย อย่าเอาเปรียบฝ่ายตรงข้ามแม้โอกาสจะอำนวยก็ตาม แพ้-ชนะ ไม่สำคัญ เราต้องเป็นสุภาพบุรุษตลอดเวลา ไปรวบรัดยุบสภาทั้งๆ ที่พูดหยกๆ ว่า "ไม่ยุบ" พรรคฝ่ายค้าน ๓ พรรคเลยประท้วง
นี่ก็เหมือนกันครับ ดร.ทักษิณเชิญคนไปฟังเมื่อวานนี้ (๓ มีนาคม) ตำรวจไม่กักรถเลย (รถที่บรรทุกคนฟังมาก ๆ เดินทางต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ" พรุ่งนี้ (๕ มีนาคม) ก็ต้องทำอย่างเดียวกัน อย่าเอาเรียบครับ เพราะไม่ใช่วิสัยของสุภาพบุรุษ
ตอนอยู่พลังธรรม มีอยู่ครั้งหนึ่ง ดร.
ขอย้ำ ขอสอนอีกที นายตำรวจและแม่ทัพนายกองที่ผ่านโรงเรียนเตรียมทหาร จะต้องยึดคำขวัญ ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ ขณะนี้ชาติต้องการการเสียสละของนายกฯ เป็นนายกฯ ผู้ทรงเกียรติ ไปได้อย่างไรเมื่อมีคนมากๆ ตะโกนไล่อยู่ทุกวัน ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาแนะทางสว่างให้ลาออกแล้วไม่ฟัง ดร.ทักษิณ กลายเป็นคนไม่มีวินัย ดร.ทักษิณต้องกล้าหาญที่จะลาออก ซึ่งง่ายมาก ง่ายกว่าที่ผมและหลายๆ คนต้องไปชุมนุม นอนกลางดินกินกลางทรายเพื่อขอร้องให้ดร.ทักษิณลาออก
ผมเคยบอกผ่านคุณสุดารัตน์ ถึงดร.ทักษิณว่า คุณ
โชคดีครับ
จำลอง ศรีเมือง
เพื่อนและพี่ที่หวังดีตลอดเวลา