เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2549 นายสุทิน กิ่งแก้ว รองประธานเครือข่ายการแก้ปัญหาขอคืนสัญชาติคนไทย ได้มีหนังสือถึงคุณหญิงอัมพร มีศุข กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้เปลี่ยนแปลงแบบสำรวจข้อมูลคนไทยพลัดถิ่นพื้นที่จังหวัดระนอง โดยระบุว่า ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ มีคำสั่งให้ดำเนินการสำรวจข้อมูลเพื่อกำหนดสถานะบุคคล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 เป็นกรณีเร่งด่วนในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ โดยกำหนดลงมาสำรวจ ระหว่างวันที่ 1 - 5 มีนาคม 2549

ปรากฏว่า ในแบบสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89) แนบบันทึก ป.ค. 14 ขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดสถานะบุคคล เพื่อนำไปสู่การแปลงสัญชาติตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีคำถามในแบบสำรวจเป็นลักษณะผูกมัดเนื้อหาว่า "ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะมาแจ้งว่า ข้าฯ เป็นคนไทยพลัดถิ่น (ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า เชื้อสายไทย) เพื่อที่จะให้ทางราชการดำเนินการแก้ไขปัญหาสัญชาติให้แก่ข้าฯ ไม่ว่าจะเป็นการแปลงสัญชาติหรือกำหนดสถานะฯ หรืออื่นใด ตามขั้นตอนที่ราชการกำหนด"

ทางเครือข่ายการแก้ปัญหาขอคืนสัญชาติคนไทย ได้ขอความร่วมมือจากปลัดอำเภอ และนายอำเภอให้ขีดฆ่าคำว่า "สัญชาติพม่า" ออก แต่ได้รับคำชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวออกโดยส่วนการทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่มีสิทธิ์แก้ไขข้อความ ทางเครือข่ายการแก้ปัญหาขอคืนสัญชาติคนไทย ขอให้สั่งการระงับการสำรวจ ตามแบบ ป.ค.14 หรือแก้ไขข้อความในแบบ ป.ค.14 หรือให้สำรวจเฉพาะแบบสำรวจ เพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เพื่อนำไปสู่การกำหนดสถานะบุคคลตามยุทธศาสตร์ และในการดำเนินการสำรวจให้กระทรวงมหาดไทย โดยส่วนการทะเบียนราษฎร ประสานงานกับเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย เพื่อให้เกิดกลไกการทำงานในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง

นายไกรราศ แก้วดี ผู้อำนวยการส่วนการทะเบียนราษฎร เปิดเผยว่า หลังจากทราบปัญหาระหว่างการสำรวจข้อมูลเพื่อกำหนดสถานะบุคคล ตามแบบสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89) โดยได้แนบบันทึก ป.ค.14 ไปด้วยนั้น ตอนนี้ได้แก้แบบสำรวจตามที่ชาวบ้านต้องการเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีข้อความสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย และอยากให้เครือข่ายการแก้ปัญหาขอคืนสัญชาติคนไทย ประสานงานมายังทางส่วนการทะเบียนราษฎร เพื่อที่จะได้รีบสำรวจให้แล้วเสร็จ ตามเวลาที่กำหนดไว้