ความเคลื่อนไหวจากฟาก "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่สามารถระดมคนได้เรือนแสน ณ ท้องสนามหลวง เพื่อร่วมกันตะโกนประโยคเด็ด "ท้ากสิน ออกไป๊" ดูเจอกับ "ข่าวไม่คอนเฟิร์ม" ไม่เว้นแต่ละวัน เช่น การรวมตัววันที่ 5 จะเป็นการรวมพลังเพื่อเดินเท้าจากสนามหลวงไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า นั่นเป็นตัวอย่างหนึ่ง

 

แต่ที่ดูจะซีเรียสจริงจังและส่งผลสะเทือนจนทำให้เสียแนวร่วมกันได้ง่ายๆ ก็คือ "หลักการประชาธิปไตย" เนื่องจากแว่วๆ ต่อๆ กันมาว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ เรียกร้องรัฐบาลพระราชทาน โดยการตีความจากแถลงการณ์พันธมิตรฉบับหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาล้อกันไปกับมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญจนน่าหวาดเสียว คล้ายๆ จะมุ่งโค่นตัวบุคคลจนไม่สนใจหลักการกันแล้วหรือไร

 

ยิ่งการออกมาของ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร ซึ่งเป็นคนที่ได้รับการเคารพและยอมรับในภาคประชาชนว่า เป็นผู้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องและปกป้องประชาธิปไตยตัวจริงเสียงจริง ก็นับเป็นการดิสเครดิตพันธมิตรฯ อย่างแรงด้วยคำกล่าวหาว่า "เปลี่ยนสี เปลี่ยนหลักการ ยอมรับอำนาจอื่นที่ไม่เป็นประชาธิปไตย"

 

"ประชาไท" ตามไปไขข้อข้องใจกับผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ นาม สุริยะใส กตะศิลา เพื่อหาคำตอบว่า "พันธมิตรฯ" เอายังไงแน่ และยืนอยู่ข้างไหนแน่ วันที่ 5 จะพาประชาชนเดินไกลถึงบางอ้อหรือไม่ และพันธมิตรคิดอย่างไรกับการออกมาเอาชีวิตเป็นเดิมพันอีกครั้งของ ร.ต. ฉลาด วรฉัตร

 

เมื่อวานนี้ คุณฉลาดออกมาพูดว่าท่าทีของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังเรียกร้องสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ทางฝ่ายพันธมิตรมองอย่างไร

เราต้องเคารพสิทธิของคุณฉลาด วรฉัตร นะครับ ท่านเป็นนักต่อสู้ เป็นแบบอย่างของนักประชาธิปไตย และที่สำคัญท่านเป็นคนมีจริยธรรมสูงส่งคนหนึ่งในแวดวงสังคมการเมืองไทยนะครับ แต่ก็อยากจะเรียนท่านว่า พันธมิตรฯ กำลังสู้กับนักการเมืองที่ฉ้อฉลและก็ไม่มีอุดมการณ์ และที่สำคัญกำลังขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เราจะปล่อยคนแบบนี้ไว้อย่างไร

 

ในด้านหนึ่งเราพูดถึงระบบการเมืองที่ดี เราพูดถึงรัฐธรรมนูญที่ดี เราพูดการปกป้องรัฐธรรมนูญ ปกป้องระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องขับไล่ทรราชย์ ต่อต้านผู้นำที่ขี้ฉ้อ คอร์รัปชั่น หรือใช้อำนาจมิชอบ มันก็ต้องไปด้วยกันนะครับ

 

ถ้าเราไปเชื่อว่าระบบดีเสียอย่าง นักการเมืองหรือผู้ใช้อำนาจก็จะถูกทำให้ดีด้วย จริงๆ ไม่ใช่ เราพบแล้วว่าระบบบางทีเขียนไว้ดีอย่างไรก็ตาม แต่เราปล่อยให้ผู้ใช้อำนาจเหลิงหรือใช้อำนาจเกินขอบเขต มันก็จะปล่อยให้กลับมาทำลายระบบที่เราสร้างกันมา

 

พี่ฉลาด วรฉัตร เป็นคนที่พยายามสร้างระบบการเมืองที่พึงปรารถนาให้สังคมการเมืองไทย แต่วันนี้คนอย่าง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กำลังคิดทำลายระบบ กำลังสร้างระบอบทักษิณาธิปไตย ก็มีคำถามไปถึงพี่ฉลาดว่า เราจะจัดการอย่างไร เพราะเราเลือกที่จะรักษาระบบ แต่เราเพิกเฉยต่อผู้นำที่เหลิงอำนาจที่หมดความชอบธรรม ก็เท่ากับว่าระบบของเราเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ร้ายครองเมือง เพราะฉะนั้นเราต้องมองไปพร้อมๆ กันทั้งตัวคนและระบบ

 

วันนี้ในด้านหนึ่ง เราต้องรักษาระบบ และที่สำคัญเราต้องพัฒนาสร้างระบบที่ดีที่ประชาชนเป็นเจ้าของ มีส่วนร่วม แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องกีดกันผู้ร้าย เราก็ต้องขับไล่ผู้ร้ายออกจากระบบ

 

ฉะนั้นวันนี้ สิ่งที่พันธมิตรฯ ทำก็คือกำลังต่อต้าน ขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม และเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบและมีการปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 2 นี่เป็นจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

 

ก่อนหน้านี้มีกระแสเหมือนว่าทางฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยอมรับได้หากมีนายกรัฐมนตรีพระราชทาน

ไม่มีครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าข่าวนี้มาจากไหน พันธมิตรฯไม่เคยพูดเรื่องนี้ และมติพันธมิตรฯ ไม่เคยเรียกร้องให้มีรัฐบาลพระราชทานนะครับ

 

แต่แถลงการณ์ (ฉบับที่ 2) มีอยู่ท่อนหนึ่งที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กับมาตรา 7 คล้ายๆ จะยอมรับนายกฯ พระราชทาน

ก็แล้วแต่การตีความนะครับ แต่การตีความต้องเป็นธรรมกับพันธมิตรฯด้วย วันนี้การเมืองยังไม่ถึงทางตันถึงขนาดต้องมีนายกฯ คนนอกหรือนายกฯ พระราชทาน

 

 วันนี้เราเพียงแต่เรียกร้องการเสียสละจากคุณทักษิณ เรากำลังเรียกร้องให้คุณทักษิณเว้นวรรคทางการเมือง ประกาศยุติบทบาททางการเมือง ถ้าคุณทักษิณเลือกเสียสละ ระบบการเมืองก็ไม่ถึงทางตัน มันก็ไปได้ มาตรา 7 ก็ไม่ถึงเวลาที่ต้องไปใช้ ดึงพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เราเห็นว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น

 

ถ้าอย่างนั้น บอกชัดๆ อีกทีว่า แนวทางพันธมิตรฯ ขณะนี้เรียกร้องอะไรบ้าง

เรียกร้องให้คุณทักษิณลาออก แล้วก็เว้นวรรคทางการเมือง หลังจากนั้นให้มีการปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 2 โดยสังคมมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ใช่ให้คน 5 คน 7 คนมาร่วมกันร่างฯ หลักการของเราคือต้องปฏิรูปการเมืองโดยสังคมและสังคมได้ประโยชน์ นั่นเป็นเป้าหมายสูงสุด แต่วันนี้เราขอทำหน้าที่ต่อต้านขับไล่รัฐบาลที่หมดความชอบธรรม เอาตรงนี้ก่อน

 

เมื่อรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมไปพ้นทางแล้ว ก็มาคุยกันว่าต้องปฏิรูปอย่างไร แต่โดยหลักการคือ 1) สังคมมีส่วนร่วม 2) ประชาชนต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อนักการเมืองหรือนักเลือกตั้งเท่านั้น

 

ขอเป็นรูปธรรมหน่อยว่า ถ้าคุณทักษิณลาออกจากรักษาการนายกฯ แล้ว จะแก้ปัญหาช่องว่างที่ไม่มีรักษาการนายกฯ อย่างไร

ก็เลื่อนรองนายกฯ รักษาการขึ้นไปครับ ไม่ต้องไปมาตรา 7 เลยครับ เลื่อนรองนายกฯ คนที่ 1 ขึ้นมารักษาการ เหมือนตอนที่พฤษภา 2535 คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ก็ขึ้นมารักษาการนายกฯ

 

จนกว่ามีการเลือกตั้งก็จบ หลังจากนั้นก็ปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 2 ไป แค่นั้นเอง ไม่ต้องไปหานายกฯ พระราชทานอะไรหรอก มันไม่วิกฤติขนาดนั้น

 

ผมเชื่อว่าวันนี้ระบบทำงานไปได้ แต่ปัญหาคือคุณทักษิณไม่รักษาระบบเพราะความดื้อรั้น เพราะความอหังการในอำนาจ ไม่ฟังความเห็นทักท้วงจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แล้วก็ดันทุรังเกณฑ์ชาวบ้านมาสนับสนุนตัวเองอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ มันกำลังจะทำให้ระบบเข้าสู่ทางตัน

 

ถ้าระบบมันจะตันมันไม่ได้ตันเพราะพันธมิตรฯ มันตันเพราะคุณทักษิณเองกำลังลากระบบทั้งระบบมาฟอกตัวเอง มาค้ำประกันอำนาจตัวเอง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงต้องเรียกร้องให้คุณทักษิณเสียสละ ลาออก และเว้นวรรคทางการเมือง นี่คือจุดยืนของพันธมิตรฯ

 

คุณทักษิณก็บอกว่าคนที่ทำให้ระบบมาถึงทางตันก็คือพรรคฝ่ายค้าน

ฝ่ายค้านเขามีสิทธิที่จะไม่ส่งคนลงสมัคร คุณทักษิณก็บอกว่าไม่สนใจนี่ ก็ไปทำสัตยาบันกับอีก 14 พรรค ฉะนั้นคุณทักษิณก็หาเสียงเลือกตั้งไปเถอะวันที่ 2 ก็ขอให้มีการเลือกตั้ง คุณทักษิณจะไปแคร์ทำไม

 

ผมคิดว่าฝ่ายค้านเขาก็มีเหตุมีผลและมีความชอบธรรมของเขา คุณยุบสภาโดยไม่ชอบ ไร้เหตุผล เพราะโดยหลักการยุบสภามันต้องเกิดวิกฤติในสภา ฝ่ายรัฐบาลแพ้เสียงข้างมาก หรือว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณไม่ผ่านสภา นั่นอาจจะเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง แต่ปรากฏว่าข้อเท็จจริงทางการเมืองไม่มีกรณีแบบนั้นเกิดขึ้นเลย

 

แต่ว่าคุณทักษิณอยู่ๆ ก็ประกาศยุบสภาแล้วก็ป้ายสีฝ่ายค้าน ป้ายสีภาคประชาชน ว่ากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย นี่ถือว่าคุณทักษิณละเมิดกติกา ละเมิดหลักปฏิบัติว่าด้วยการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ฉะนั้นจึงถือว่าการยุบสภาของคุณทักษิณนั้นไม่ชอบ เมื่อไม่ชอบก็มีการดื้อแพ่ง

 

การประกาศไม่ลงสมัครถือว่าเป็นการดื้อแพ่ง การดื้อแพ่งก็คือการต่อต้านกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม การประกาศตัดสินใจของฝ่ายค้านควรได้รับเสียงปรบมือมากกว่าเสียงด่าทอ

 

แต่การยุบสภาของคุณทักษิณต่างหากที่สังคมต้องประณามว่า นี่คือการเอาระบบรัฐสภามาฟอกตัวเองอย่างไร้เหตุผล นาทีสุดท้าย เรายังเห็นคุณทักษิณเห็นแก่ตัว แล้วเราจะไว้ใจคนอย่างนี้ได้อย่างไร

 

แนวทางการปฏิรูปการเมืองของฝ่ายพันธมิตรฯ กับพรรคฝ่ายค้านที่ต่างก็เสนอขึ้น ดูเหมือนจะไม่ไปด้วยกันนัก

เราไม่ได้ไปคุยกับฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านก็มีสิทธิที่จะเสนอ แต่ทางภาคประชาชนเรายังไม่ได้เสนอเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ว่าโดยหลักการใหญ่ๆ ก็คือลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน แล้วก็มีพื้นที่ มีที่ทางรองรับบทบาทภาคประชาชนและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมกว่าเดิม และทำให้อำนาจของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นจริง ระบบตรวจสอบนักการเมืองที่อิสระและเข้มแข็งมากกว่าที่เป็นอยู่

 

หลักคือ Strong People ไม่ใช่ Strong Prime Minister คือเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน นี่คือหลักใหญ่ ส่วนรายละเอียดนั้นยังมีอีกเยอะ แต่เวลานี้ขอให้เราแสดงพลังขับไล่รัฐบาลที่หมดความชอบธรรมไปก่อน

 

ฝ่ายค้านเสนอโมเดลปฏิรูปการเมืองคล้ายๆ กับข้อเสนอของ ศ. อมร จันทรสมบูรณ์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะยอมรับให้มีการตั้ง "คณะกรรมการพิเศษร่างรัฐธรรมนูญ" โดยพระมหากษัตริย์ ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากคำแนะนำของประธานองคมนตรี

เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันได้นะ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เห็นด้วยที่จะมีการผูกขาดการร่างรัฐธรรมนูญโดยผู้เชี่ยวชาญ ผมคิดว่าอย่างต่ำที่สุดก็ต้องเป็นแบบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ในอดีต ก็คือเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากทั้งคนในเมืองและคนในชนบทให้กว้างที่สุด มีการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มประชาชนกลุ่มทางสังคมต่างๆ และมาประมวลกัน เป็นประเด็นและเขียนบัญญัติเป็นมาตรา และสุดท้ายก็มาให้ประชาชนลงมติ ถ้าหากว่าสภาไม่ผ่าน

 

ผมคิดว่าหลักการของการปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 2 ต้องยึดโยงกับความเห็นการมีส่วนร่วมของสังคมและประชาชนอย่างกว้างขวางที่สุด

 

วันที่ 5 มีนาคมนี้ ยืนยันว่าจะมีการชุมนุม แล้วสถานที่ชุมนุมจะเป็นที่ไหน

สนามหลวงครับ เรายืนยันที่ชุมนุมกันอย่างสันติ ยึดหลักอหิงสา ในวันที่ 5 เวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 5 เราก็ยังยืนยันว่าจะชุมนุมกันอย่างสันติต่อไป

 

มีกระแสข่าวว่าจะเดินจากสนามหลวงไปบ้านจันทร์ส่องหล้าจริงไหม

ไม่มีครับ ผมก็งงกับข่าวที่เกิดขึ้น ผมยืนยันว่าถ้าพันธมิตรฯจะปรับขบวน จะเคลื่อนย้ายขบวนไปไหนอย่างไร จะต้องมีการประกาศบนเวทีและมีการแถลงอย่างเป็นทางการ เหมือนเมื่อคืนวันที่ 27 กุมภาฯนะครับ ไม่ใช่มีการปล่อยข่าวจะไป แต่ไม่ไป

 

ถ้าเราจะเคลื่อนย้ายมวลชนจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการ

 

วันนี้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ออกมาพูดคล้าย ๆ กับจะเป็นการดึงพลังประชาชนฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลให้ออกมาต่อต้านฝ่ายพันธมิตรฯ โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 65 ที่บัญญัติรับรองให้ประชาชนออกมาต่อต้านการกระทำที่จะทำให้มีการปกครองประเทศซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย

ขอบคุณ น.พ. สุรพงษ์ นะครับ สิ่งที่พันธมิตรฯกำลังทำอยู่ก็คือ การใช้มาตราที่ท่านแนะนำ ต่อต้านรัฐบาลที่ขี้ฉ้อและล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ก็คือรัฐบาลทักษิณ

 

ที่เราทำอยู่ก็คือการชุมนุมกันอย่างสันติเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มิชอบ และละเมิดรัฐธรรมนูญ เรากำลังใช้มาตราที่ น.พ.สุรพงษ์ แนะนำนั่นแหละ ที่ใช้มาทั้งหมดก็คือ การใช้มาตรานี้นั่นแหละ