"กลุ่มการะเกด" เสนอไล่ "แม้ว" ด้วยอารยะ เป็นหน้าที่ขับอธรรมอันพึงกระทำ

ประชาไท - 10 มี.ค. 2549 ร้อยองค์กรภาคประชาชนรวมตัวเป็นกลุ่มการะเกด 2549 ชู "อารยะแข็งขืน" 10 ประการ เสริมศักยภาพพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยล้ม "แม้ว"


 

วันที่ 9 มี.ค. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นายทวีศักดิ์ สุขรัตน์ จากประชาคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี แถลงจุดยืนในนามกลุ่มการะเกดว่า จะยืนเคียงข้างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเชิญชวนให้ประชาชนมาช่วยกันแสดงจุดยืนและปฏิบัติการแข็งขืน 10ประการ กดดันให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกและป้องกันไม่ให้ระบอบทักษิณกลับมา โดยแนวทางดังกล่าวแบ่งเป็น 3 หมวดได้แก่

 

หมวดคว่ำบาตรสินค้าและบริการของกลุ่มทักษิณชินวัตรและพันธมิตร 3 ข้อ ข้อแรก ยกเลิกการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ทรู และทรูมูฟ

 

ข้อสองไม่ซื้อสินค้าในห้างเทสโกโลตัส แม็คโคร เซเวนอิเลฟเวน และเทเลวิซทุกสาขา ข้อสามคือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการทุกประเภทของ ซีพี เนสเล่ และแคปปิตอลโอเค

 

ในหมวดที่สองคือแข็งขืนแบบอารยะต่อรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมโดยการชวนกันไปเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. ให้ล้นหลามโดยยึดคำขวัญ "เข้าคูหา กาไม่เลือกใคร" ข้อต่อมาคือพร้อมกันเฉื่อยงาน ลางาน และหยุดตามเงื่อนไข อีกข้อคือชะลอการเสียภาษีทุกประเภท

 

หมวดสุดท้ายของอารยะแข็งขืน คือการสำแดงพลังพลเมืองไท และหนุนประชาธิปไตยเชิงจริยธรรม ด้วยการ ปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองผู้ตื่นรู้ โดยเข้าร่วมรณรงค์ต่อต้านระบอบทักษิณอย่างจริงจัง ร่าเริง สนุกสนาน และทำกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ ข้อต่อมา ข้าราชการร่วมกันแต่งชุดดำหรือติดริบบิ้นดำที่แขนขวาทุกวันอังคาร อันเป็นวันที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี อีกข้อคือต้องชวนคุยกันในครอบครัวเรื่องจริยธรรม คุณธรรมกับอนาคตสังคมไทย และข้อสุดท้าย คือเผยแพร่บทเพลง บทกวี ประชาธิปไตยและคุณธรรม

 

นอกจากนี้กลุ่มการะเกดได้ระบุแนวทางเผยแพร่อารยะธรรมแข็งขืนไว้ว่า จะให้ผ่านไปทางเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนต่างๆที่ร่วมลงชื่อด้วยกว่าร้อยองค์กร รวมทั้งได้ยืนยันว่าขณะนี้ในระดับรากหญ้ามีผู้ที่ตื่นตัวกับการรณรงค์เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาจะมีการปิดกั้นการรับรู้ความจริงในอีกด้าน แต่ปัญญาชนชนบทมีการติดตามข่าวสารได้ตลอดจากสื่อนอกกระแสหลัก เช่น เคเบิล หรืออินเตอร์เนต จนทำให้เกิดการเคลื่อนไหวปฏิบัติการในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเวทีสาธารณะเผยแพร่ความรู้ หรือวิทยุชุมชน ดังนั้นตอนนี้ความตื่นตัวในการรู้เท่าทันจึงไม่ได้เกิดแค่ในชนชั้นกลางตามทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตย แต่ความเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นในชนบทด้วย

 

อย่างไรก็ตาม นายชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ จากสถาบันการเรียนรู้พัฒนาประชาสังคมและกลุ่มการะเกดกล่าวในเวทีเดียวกันว่า การต่อสู้คงไม่อาจเห็นผลได้โดยง่ายแต่จะต้องเชื่อมั่น โดยยกคำกล่าวของ มากาเร็ธ มีด นักสังคมวิทยามาเสริมว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลเมืองช่างคิดและเอาจริงเอาจังกลุ่มเล็กๆ สามารถเปลี่ยนโลกได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ" ซึ่งนายชัยวัฒน์กล่าวกระตุ้นว่า มากาเร็ธเชื่ออย่างจริงจังว่าคนกลุ่มเล็กๆก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นในตอนนี้ประชาชนมีเป็นแสนคนแล้วก็ต้องทำได้

 

นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังได้เน้นว่าการกระทำเพื่อต่อสู้ขับไล่นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นไปตามหลักการพื้นฐานเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม เช่นเดียวกับหน้าที่ที่อรชุนบุคคลสำคัญในมหากาพย์มหาภารตะของอินเดียต้องกระทำ

 

"รบเถิด อรชุน! หากท่านตายในสนามรบสวรรค์ยังเปิดรอท่านอยู่ แม้นหากท่านมีชัยความเป็นใหญ่ในแผ่นดินก็รอให้ท่านครอบครองอยู่แล้ว" ภควัทคีตา บทที่ 2 โศลกที่ 37 ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในมหาภารตะยุทธ ช่วงเวลาที่อรชุนแห่งปาณฑพ จะต้องรบกับพวกเการพซึ่งมีนิสัยคิดคด ขาดคุณธรรมจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ทั้งสองกลุ่มมีปู่ร่วมกัน สงครามดังกล่าวจึงเป็นสงครามแห่งเครือญาติ ทำให้อรชุนเกิดความท้อที่จะรบจนยกศรไม่ขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม พระกฤษณะหรือองค์วิษณุซึ่งอวตารมาเป็นสารถีของอรชุนได้สอนเรื่องหน้าที่อันสำคัญของนักรบด้วยโศลกดังกล่าวว่าสิ่งที่อรชุนกำลังสู้รบด้วยคืออธรรม อรชุนจึงมีกำลังใจกลับมาสู้รบอีกครั้งจนได้ชัยชนะและกลายมาเป็นเรื่องราวมหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่อันเป็นรากฐานของประเทศอินเดียมาจนทุกวันนี้

 

กลุ่มการะเกด เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันเป็นครั้งคราว โดยครั้งแรกคือ พ.ศ. 2539 เพื่อสนับสนุนให้มีการปฏิรูปการเมืองโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและเป็นที่มาของ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)และการขับเคลื่อนการรับรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ด้วยสัญลักษณ์ธงเขียว

 

ต่อมาในพ.ศ.2541 รวมตัวกันในชื่อ "กลุ่มก่อบ้านกู้เมือง" เมื่อครบรอบ 1 ปีฟองสบู่แตก ส่วนในปีนี้เกิดการรวมตัวกันเพราะเห็นว่าขณะนี้นายกฯได้เข้าสู่วิกฤติศรัทธาและเห็นว่าควรจะต้องลาออกแล้ว และเสนอแนวทางในการรณรงค์อย่างเป็นรูปธรรมด้วยอารยะแข็งขืนดังที่กล่าวมา

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท