ประชาไท17มี.ค. 2549 ยอดผู้บริโภคยกเลิกการใช้บริการโทรศัพท์มือถือของเอไอเอสกว่า 3,500,000 คน ภายในระยะเวลา 9 วัน เตรียมบุกสถานทูตสิงคโปร์อีกครั้งบ่ายวันนี้
หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์และคว่ำบาตรการใช้สินค้าและบริการของกลุ่มชินคอร์ป ฯ รวมถึงสินค้าและบริการของประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีสินค้าและบริการที่สำคัญ เช่น โทรศัพท์มือถือระบบเอไอเอสจีเอสเอ็ม วันทูคอล, ไม่ขึ้นสายการบินแอร์เอเซีย สิงค์โปร์แอร์ไลน์, ไม่ดื่มเบียร์เฮเนเก้น ไทเกอร์เบียร์, หยุดจ่ายหนี้และไม่ใช้บริการบริษัทเงินกู้จากบริษัทแคปปิตอลโอเค(Capital OK) ธนาคารยูโอบี และธนาคารดีบีเอส, บริการจากกลุ่มรพ.พระรามเก้า, รพ.พญาไท 1,2,3 ศรีราชา ระยอง, กลุ่มรพ.เปาโล รพ.ศิขรินทร์ รพ.สยามสาขาโชคชัยและนวมินทร์ ไม่ไปเที่ยวประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น(ดูรายละเอียดรายการสินค้าและบริการได้จากคู่มือการคว่ำบาตร)
หนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มต้นคว่ำบาตร พบว่า มาตรการดังกล่าวประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย เช่น การสำรวจของเอแบคโพล พบว่า ผู้ใช้บริการเอไอเอสได้เลิกใช้บริการเอไอเอสแล้วร้อยละ 11 และจะยกเลิกการใช้บริการในเร็ว ๆ นี้อีกร้อยละ 10.5 รวมสัดส่วนผู้ยกเลิกการใช้บริการมากถึงร้อยละ 21.5 หรือหากคำนวณจากฐานลูกค้าปัจจุบันของเอไอเอสที่ 16.5 ล้านคน แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคจำนวนมากกว่า สามล้านห้าแสนคนพร้อมสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคว่ำบาตรไม่ใช้บริการจากเอไอเอส ทั้งนี้ยังมีรายงารนว่า มีผู้ใช้บริการร้านบอดี้เชพซึ่งเป็นกิจการของน.พ.สุรพงษ์ สืบวงลี โฆษกรัฐบาล ลดลงถึงร้อยละ 20
สำหรับความคืบหน้าของการเคลื่อนไหวต้านกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ วันนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเดินทางไปสถานทูตสิงคโปร์เพื่อประกาศบอยคอตสินค้าและบริการของสิงคโปร์ วันนี้ โดยนัดกันที่หน้าสวนลุม ณ ลานพระรูป ร.6 เวลาเที่ยง และจะเริ่มออกเดินไปสถานทูตฯ ในเวลา 13.00 น.
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)