กลุ่มการะเกดรณรงค์ต้าน "ระบอบทักษิณ" ด้วย "10 อารยะแข็งขืน"

ที่โรงแรมทวินทาวเวอร์ รองเมือง กลุ่มการะเกด 2549 จัดอารยะเสวนาเรื่อง "เตรียมความคิด เตรียมใจ สู่ยุคหลังระบอบทักษิณ" ซึ่งกลุ่มนี้เป็นการรวมตัวกันของทุกองค์กรที่ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี 105 องค์กรทั่วประเทศ อาทิ กลุ่มนักวิชาการ ศิลปิน นักศึกษา แพทย์ชนบท แพทย์อาวุโส เป็นต้น

 

ทั้งนี้มีตัวแทนเข้าร่วมประชุมกำหนดท่าทีเคลื่อนไหวกว่า  120 คน อาทิ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ผศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ อ.ชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ จากซิวิคเน็ต รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี จากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล นายชูชาติ ผิวสว่าง จากมูลนิธิซีซีเอฟ ในประเทศไทย รศ.สุริชัย หวันแก้ว จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีต รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฯลฯ

 

ภายหลังการประชุม นพ.พลเดช แถลงข่าวว่า กลุ่มการะเกดได้เสนอใช้มาตรการอารยะแข็งขืน 10 ประการต้านระบอบทักษิณ ได้แก่ 1.ยกเลิกการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเอไอเอส ทรู และทรูมูฟ 2.ไม่ซื้อของในห้าง เทสโก้โลตัส แม็คโคร เซเว่นอีเลฟเว่น และเทเลวิซทุกสาขา 3.ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าของซีพี เนสท์เล่ และแคปปิตอลโอเค 4.ไปเลือกตั้งโดยยึดคำขวัญ "เข้าคูหา กาไม่เลือกใคร" 5.พร้อมใจกันเฉื่อยงาน ลางาน และหยุดงานตามเงื่อนไข

 

6.ชะลอการเสียภาษีทุกประเภท 7.เข้าร่วมรณรงค์ต่อต้านระบอบทักษิณอย่างสร้างสรรค์ 8.ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ร่วมกันแต่งชุดดำ หรือติดริบบิ้นสีดำที่แขนขวาในทุกวันอังคาร อันเป็นวันประชุม ครม. 9.ชวนกันคุยในครอบครัว หน่วยงาน องค์กร และในชุมชนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมกับอนาคตสังคมไทย 10.ส่งบทเพลง บทกวี หรือผลงานศิลปะที่แสดงถึงคุณธรรมและจริยธรรมไปที่กลุ่มการะเกด 2549 โทรศัพท์ 0-2222-4693 โทรสาร 0-2222-4694

 

ตัวแทนกลุ่มการะเกด 2549 กล่าวว่า การแข็งขืนแบบอารยะกระจายตัวอย่างรวดเร็วไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตาม  และในระยะยาวจะเกิดผลอย่างแน่นอน ในส่วนข้าราชการอาจต้องแต่งดำทั้งปีจนกว่านายกฯ ทักษิณจะลาออก หากข้าราชการกล้าหาญกันมาก รัฐบาลก็จะอยู่ในภาวะปกครองไม่ได้ สั่งอะไรกลไกราชการก็ไม่ปฏิบัติตาม และเมื่อไหร่ที่ทหารไม่เอาด้วย รัฐบาลก็จบ ขณะนี้การแข็งขืนแบบนี้มีแล้วในกลุ่มหมอ พยาบาล ด้วยสถานะที่ไม่สยบยอมตามลักษณะวิชาชีพอยู่แล้ว

 

"เราต้องพร้อมรับความเจ็บปวด การลงโทษทางวินัย ทางกฎหมาย บอกไม่ได้ว่านานขนาดไหนจึงจะสำเร็จ แต่เชื่อว่าเมื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ปัจจัยที่กระตุ้นแรงมากๆ เมื่อนั้นการแข็งขืนจะเห็นผลเร็วมาก เหมือนกรณีธงเขียวปฏิรูปการเมือง ที่กลุ่มการะเกดเป็นกลุ่มเริ่มต้น ซึ่งอารยะแข็งขืนนี้ไม่ทำให้เสียเลือดเนื้อ  ไม่ต้องไปรวมตัวกันที่จุดเดียวก็ได้ แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ เป็นการเรียกร้องที่คู่ขนานไปกับการชุมนุมปกติที่จะมีต่อไป และประชาชนตามท้องถิ่นต่างๆ จะคิดรูปแบบการแข็งขืนได้มากขึ้นเรื่อยๆ"

 

นพ.พลเดชกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์กันถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้งว่า จะมีปัจจัยที่ทำให้พลังประชาชนเข้มแข็งขึ้น และความชอบธรรมของรัฐบาลจะลดลง ได้แก่ 1.หากผลการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยล้มเหลว พลังประชาชนจะมากขึ้น 2.หากจับการโกงการเลือกตั้งได้ รัฐบาลก็จะอ่อนกำลังลง  3.หากผลการเลือกตั้งก้ำกึ่ง  แต่ดันทุรังเปิดสภาแม้ว่า ส.ส.จะไม่ครบ 500 คน ความชอบธรรมรัฐบาลก็จะลดลง

 

ทางกลุ่มการะเกดจึงเสนอว่า 1.ประชาชนต้องไปเลือกตั้งมากๆ 2.เข้าคูหากาไม่เลือกใคร ซึ่งคาดว่าจะมีคะแนนในช่องนี้มากเป็นประวัติการณ์ 3.ตั้งทีมทุกจังหวัด อย่างน้อย 1-2 ทีมเพื่อจับผิดการเลือกตั้ง โดยจะเชื่อมโยงกับเครือข่ายและส่วนที่เฝ้าระวังสื่อทั่วประเทศ

 

เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนายังวิเคราะห์ว่า หากรัฐบาลได้คะแนนเสียงมากก็จะฮึกเหิม ซึ่งขณะนี้ก็ได้ส่งสัญญาณที่จะปราบปรามแล้ว ซึ่งส่วนนี้ภาคประชาชนระมัดระวังมาตลอด และหากผลการเลือกตั้งค้านความรู้สึกประชาชน กระแสจะตีกลับ แม้ว่ารัฐบาลจะมั่นใจว่าโกงอย่างแนบเนียนแล้วจึงปราบพวกที่ไม่เห็นด้วย หากเชื่อว่าปราบแล้วความวุ่นวายจะหยุด นั่นเท่ากับคิดผิด เพราะประชาชนไม่ยอมรับง่ายๆ

 

"ผมคิดว่าการเมืองที่ร้อนระอุจะไม่สงบโดยเร็ว จะคุกรุ่นไปตลอดเดือนเมษายน เลือกตั้งซ่อมครั้งแล้วครั้งเล่า และจะมีคนไปใช้สิทธิ์น้อยลงเรื่อยๆ ครบ 30 วันแล้วสภาก็จะยังไม่สมบูรณ์ ประชาชนจากภาคใต้อาจจะถึงภาวะไร้การควบคุม ทั้งนี้การมองสถานการณ์จะชัดเจนในหลังวันที่ 3 แต่ขอย้ำว่าความรุนแรงในประวัติศาสตร์ ทั้ง 14 ตุลา, 16 ตุลา และพฤษภาทมิฬ ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เป็นฝ่ายรัฐ ครั้งนี้ก็เช่นกัน หากจะเกิดความรุนแรงก็จะเกิดจากฝ่ายรัฐมากกว่า และประชาชนจะไม่ยอมจำนนแน่นอน" นพ.พลเดชกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มการะเกดได้จัดทำ ทำเนียบองค์กร กลุ่ม คณะบุคคล ที่ออกมาเคลื่อนไหวไล่ พ.ต.ท.ทักษิณบางส่วนตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ถึงวันที่ 21 มีนาคม ที่มีมากถึง 105 กลุ่ม พร้อมแถลงการณ์ของแต่ละกลุ่ม รวมทั้งสถานที่ติดต่อด้วย

 

…………………………………..

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 2 เมษายน 2549

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท