Skip to main content
sharethis

ประชาไท—2 มิ.ย. 2549 นักวิชาการด้านความมั่นคงชี้เตือนกองทัพไทย ปรับตัวรับปัญหาความมั่นคงใหม่ ทั้งด้านพลังงานและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเหนือที่จีนกำลังรุกคืบอย่างหนัก รองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา ชี้รอบบ้านยังไม่สนิทใจกับไทย


รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวกับเหล่าทหาร กองทัพภาคที่ 3 ในการสัมมนา กระบวนการเสริมสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ที่วายเอ็มซีเอ เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้กองทัพกำลังเผชิญปัญหาท้าทายใหม่ ที่ต้องปรับตัวรับสถานการณ์ให้ทัน เช่นปัญหาความมั่นคงด้านพลังงาน ที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงเกินกว่าความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ปัจจุบัน กองทัพควรเร่งหาพลังงานทดแทน ขณะที่ปัญหาทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคเหนือ เกิดการรุกคืบของสินค้าจีน ทั้งผ่านเส้นทางคมนาคม และเล็ดลอดตามแนวชายแดน รวมทั้งการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง และสาละวิน ที่จะทำให้แนวทางการป้องกันชายแดนแบบเดิมเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทั้งผู้คน อาชญากรรม สินค้า และวัฒนธรรมจะหลั่งไหลเข้ามา จนงานชายแดนต้องปรับตัวให้ทัน นอกเหนือจากปัญหาเดิมที่ต้องตระหนัก คือการปักปันเขตแดน ที่เป็นงานยุ่งยากที่สุดของชายแดนภาคเหนือ


รศ.ดร.สุรชาติยังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีปัญหาความมั่นคงหลายรูปแบบที่กองทัพต้องตระหนักในยุคนี้คือ ปัญหาโรคระบาด ผ่าน 3 แบบ คือเอดส์ ซาร์ส และหวัดนก ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่โยงใยมากับคน ยาเสพติด และอาวุธขนาดเล็ก ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรน้ำ และน้ำมัน ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาตามแนวชายแดนที่แยกย่อยออกไปได้ทั้งปัญหาเส้นเขตแดน คนเข้าเมืองผิดกฏหมาย การแย่งชิงทรัพยากร สงคราม ผู้อพยพ ธุรกรรมผิดกฏหมาย ตลอดจนความยากจนและสิ่งเสพติด


"กรณีปักปันเขตแดน ภาคเหนือมีความรับผิดชอบแนวที่ยาวที่สุด และยากที่สุก กรณีเส้นเขตแดนกับพม่า มีการปักปันได้เพียง 50 กม. ที่เหลืออีกราว 2,300 กม. กองทัพภาคที่ 3 จะต้องดูแลชายแดนโดยไม่มีแนวเขต ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพต้องตระหนัก"


ด้านพลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา กล่าวว่าขีดความสามารถในการพัฒนาหมู่บ้านชายแดนของไทยยังต้องการการพัฒนาอีกมาก ในภาคเหนือที่เคยมี 50 หมู่บ้านทักษิณพัฒนา แต่เมื่อยกเลิกกองอำนวยการบริหารชายแดนไป ขณะนี้เหลือเพียง 5 หมู่บ้านเท่านั้นเนื่องจากรัฐบาลไม่เข้าใจเรื่องของการบริหารความมั่นคง


กรณีของภาคเหนือมีอาณาเขตติดต่อทั้ง จีน พม่า ลาว การจะให้ภาคเหนือมีความมั่นคง ต้องดูจากภาคนอกประเทศว่าเป็นมิตรกับไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ตนพิจารณา ต้องยอมรับว่ายังไม่สนิทใจกันนัก รัฐบาลจึงต้องมองภัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระดับชาติและพัฒนาความสัมพันธ์จากภาคนอกให้ดีด้วย โดยเฉพาะด้านการปักปันเขตแดนที่ยากลำบากในหลายจุดโดยเฉพาะกับพม่า ที่มีปัญหายาเสพติดเกี่ยวเนื่องมา รวมทั้งการอพยพหนีภัยสงคราม ที่สืบเนื่องต่อปัญหาสังคมและสุขภาพ


"ปัญหาที่จะต้องจับตาต่อความมั่นคงในอนาคตคือ แรงงานเถื่อนที่มีเกือบ 2 ล้านคน รวมทั้งจีน อินเดีย ปากีสถาน และบังคลาเทศ ที่เล็ดลอดการรายงานตัวเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีปัญหาสินค้าทางการเกษตรที่ส่งผลกระทบกับการผลิตในไทย แนวทางพัฒนาคือสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านชายแดน นำการคมนาคม การศึกษาเข้าไปให้ทั่วถึง"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net